ศิลปะบนเรือนร่าง เทรนด์เจาะผ่านผิวด้วย “หัวเข็มฉีดยา” สถิติสูงสุดกว่า 4,700 เล่ม!!

เราอาจเคยเห็นศิลปะบนเรือนร่างในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเพนท์สี การสักลาย หรือเจาะส่วนต่างๆ ของร่างกาย

สิ่งนั้นรวมไปถึง การฝังเข็ม ในแบบที่เรียกว่า Needle Play เจาะผ่านผิวหนังของเราไป ความแปลกใหม่ สวยงาม และเป็นเอกลักษณ์

 

คำเตือน: ภาพเนื้อหาอาจมีความรุนแรง กระทบต่อจิตใจ เหมาะสำหรับคนจิตแข็ง

 

Jilf ศิลปินผู้ศึกษาและทำผลงานเกี่ยวกับการฝังเข็ม มานานหลายปี

 

การฝังเข็มในลักษณะนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มของคนที่มีความอภิรมย์ทางเพศแบบ BDSM (คนที่นิยมการร่วมรักแบบรุนแรง เจ็บปวด)

และสำหรับ Jilf ศิลปินสาววัย 43 ปี ในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย สิ่งนี้คือความท้าทายสำหรับเธอในการสร้างผลงานให้ลูกค้าแต่ละคน

เธอศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของการเจาะและฝังเข็มมายาวนานกว่า 20 ปี รวมไปถึงเรื่องของกายวิภาค ผิวหนัง ซึ่งเป็นส่วนจำเป็นต่อการสร้างผลงานต่างๆ ของเธอ

 

.

 

Jilf บอกว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับการฝังเข็มลงบนผิวหนัง โดยสิ่งสำคัญก็คือเรื่องความปลอดภัยของผู้ที่รับการฝังเข็ม

เธออธิบายว่าวิธีการนี้ช่วยเติมเต็มความรู้สึกและอารมณ์ทางเพศให้กับคนบางกลุ่ม มันสามารถทำให้พวกเขารู้สึกราวกับอวัยวะเพศกำลังถูกกระตุ้น หรืออาจรู้สึกเหมือนได้รับอาหารสมอง หรืออาจเป็นพร้อมๆ กันทั้งสองอย่าง

 

.

 

ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะขนาดของปลายเข็มที่แตกต่างกันก็ส่งผลต่อความรู้สึกที่แตกต่างกันได้อีกด้วย โดยจะมีตั้งแต่ขนาด 30g (เล็ก) ไปจนถึง 4g (ใหญ่)

ยิ่งใหญ่เท่าไหร่ก็จะยิ่งทำให้คนคนนั้นได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าปลายเข็มเล็กตั้งแต่ขนาด 22g ขึ้นไป ก็อาจรู้สึกคันยิบๆ

 

.

 

วิธีการนี้ยังช่วยเติมเต็มจิตวิญญาณ อะดรีนาลีนในร่างกายสูบฉีด ปล่อยสารเอ็นดอร์ฟิน ออกมาไหลเวียนมากกว่าปกติ

เมื่อสิ้นสุดขั้นตอนทุกอย่างแล้ว เราก็จะได้หัวเข็มฉีดยาที่ถูกเจาะผ่านผิวหนัง เรียงตัวกันออกมาเป็นลวดลายต่างๆ ก่อนที่จะดึงมันออกมาจนหมด ทิ้งไว้เพียงรอยนูนบนผิวหนังที่จะหายไปเองในไม่กี่นาทีหรือชั่วโมง

 

.

 

นอกจากนั้น Jilf ยังเป็นศิลปินที่เคยสร้างผลงานการฝังเข็มแบบนี้ติดอันดับโลกมาแล้ว เธอเคยเจาะมันลงไปกว่า 4,700 เล่มบนเรือนร่างของลูกค้า ซึ่งนั่นถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะมากที่สุดในโลก

 

ผลงานสถิติโลก ฝังเข็มจำนวน 4,700 เล่ม

 

Jilf บอกว่าผลงานนี้คือความท้าทายอย่างมาก เธอและ JeebusFUCK เพื่อนร่วมงานของเธอในตอนนั้น ต้องใช้เวลาเตรียมตัวกันนานกว่า 9 เดือน

ทั้งคู่ศึกษาเรียนรู้สิ่งต่างๆ เพื่อให้เตรียมพร้อมกับการสร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ระดับโลก ทุกคนที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งต่างรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทำมัน

 

Jilf และ JeebusFUCK กับผลงานที่พวกเขาทำ

.

 

อย่างไรก็ตาม Jilf ก็เตือนทุกคนที่สนใจวิธีการนี้ว่า “จงใส่ใจในเรื่องของความปลอดภัย รักษาความสะอาดในทุกขั้นตอน สวมถุงมือ หมั่นศึกษาสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นให้ได้มากที่สุด ระหว่างนั้นก็ต้องฝึกฝนลงมือทำควบคู่กับการเรียนรู้ไปด้วย”

 

.

 

แนะนำว่าหากใครอยากลองทำอะไรแบบนี้ ก็ขอให้ได้ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนจะดีกว่า เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อหรือผลลัพธ์ที่เราไม่คาดคิด

 

ที่มา: dailymail

Comments

Leave a Reply