พบโครงกระดูกอายุกว่า 3,000 ปี กับ “อ้อมกอดแห่งความรัก” แม้ความตายก็ไม่อาจพรากจาก

เราคงหมดโอกาสแสดงความรักให้กับคนที่จากโลกนี้ไปแล้ว แต่ทว่าโครงกระดูกอันเก่าแก่ที่เพิ่งถูกค้นพบในครั้งนี้ กลับทำให้เราสัมผัสได้ถึงคำว่าความรัก ข้ามผ่านกาลเวลามานานกว่า 3,000 ปี

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2018 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเกี่ยวกับการค้นพบโครงกระดูกดังกล่าวใกล้กับเมือง Petrykiv ประเทศยูเครน และอ้อมกอดแห่งความรักที่ยังคงอยู่ ไม่ว่านานแค่ไหนก็ตาม

 

ลักษณะของโครงกระดูกที่ถูกค้นพบ

 

ศาสตราจารย์ Mykola Bandrivsky ผู้ศึกษาเกี่ยวกับ “การฝังศพคู่รัก” จากสถาบันโบราณคดีในยูเครนบอกว่าศพที่เราเห็นนี้มีอายุมานานกว่า 3,000 ปี สมัยช่วงยุคสัมฤทธิ์

จากลักษณะท่าทางแล้ว บอกได้ว่าโครงกระดูกผู้หญิง (ทางด้านขวา) กำลังกอดคู่รักของตัวเอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฝ่ายชายน่าจะเป็นฝ่ายที่เสียชีวิตไปก่อน แล้วฝ่ายหญิงจึงยอมลงไปกอดเขาแล้วโดนฝังทั้งเป็น

 

ลักษณะการกอดคือ ฝ่ายหญิงเอาแขนให้ศพผู้ชายหนุน และเอาขาพาดไว้กับเขา

 

นั่นคือการแสดงให้เห็นว่า ฝ่ายหญิงไม่อาจทำใจกับการจากไปของคนรักได้ หรือไม่อย่างนั้นเธอก็คงไม่อยากใช้ชีวิต เริ่มต้นใหม่กับใครอีกแล้ว

ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ บอกว่า ผู้หญิงอาจดื่มยาพิษเข้าไป ก่อนที่จะลงไปในหลุมแล้วกอดชายอันเป็นที่รักของตนเอาไว้ ลาโลกนี้ไปอย่างไม่ทรมาน

 

 

ภายในหลุมไม่ได้พบเพียงแค่โครงกระดูกเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงชาม โถ และไห ซึ่งทำให้พอคาดเดาได้ว่าทั้ง 2 คนน่าจะอยู่ในกลุ่มคนที่เรียกว่า Wysocko (หรือ Vysotskaya) ในยุคนั้น

นอกจากนั้น กลุ่มที่ว่ามายังเป็นกลุ่มที่มีความเชื่อของ “ความเมตตา” ต่อพิธีฝังศพ

 

 

นับว่าเป็นอีกหนึ่งการค้นพบอันน่าอัศจรรย์ ที่เผยให้เห็นว่า “ความรัก” ของทั้งสองในอดีตกาลนั้นมันลึกซึ้งและยิ่งใหญ่มากขนาดไหน

 

ที่มา: ladbible , mirror

Comments

Leave a Reply