ตื่นเต้นอะไรกัน!? ชายหนุ่มแค่ ‘อัดคลิปเลมอนกลิ้ง’ แต่มีคนเข้ามาดู 6 ล้าน คุณพระ!!

หลายๆ ครั้งก็มีเรื่องราวแปลกๆ เกิดขึ้นบนโลกอินเตอร์เน็ต และครั้งนี้เองก็เช่นกัน!!

 

เรื่องมีอยู่ว่าพ่อหนุ่ม Michael Sakasegawa วัย 39 ปี จากเมืองซาน ดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกไปวิ่งในตอนเช้าเหมือนเฉกเช่นทุกวัน

แต่ระหว่างทางที่กำลังจะเดินกลับบ้านเขาดันไปเจอกับ ‘ลูกเลมอน’ กำลังกลิ้งอยู่ที่ร่องถนน พี่แกก็เลยหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปซะเลย

 

 

จากนั้นก็นำคลิปดังกล่าวไปโพสต์ลงบนทวิตเตอร์พร้อมกับแคปชั่นว่า “วันนี้ขณะที่ผมกำลังเดินกลับบ้านหลังจากออกไปวิ่งมา ผมเห็นลูกเลมอนขนาดใหญ่กำลังกลิ้งลงมาจากตลิ่ง มันกลิ้งไปเรื่อยๆ ไม่หยุดเป็นระยะทางกว่า 1/4ไมล์ ไม่เชื่อก็ลองดูสิ”

และนี่น่าแปลกคือในคลิปวิดีโอดังกล่าว มันไม่มีอะไรเลยนอกจาก ‘เลมอน’ ที่กลิ้งไปเรื่อยๆ เป็นความยาว 1.51 นาที แต่กลับกลายเป็นว่ามีคนเข้ามาดูคลิปมากกว่า 6 ล้านครั้ง!!

 

 

ทวีตดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมากมีคนเข้ามากดไลก์ถึง 269,000 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 86,300 ครั้งเลยทีเดียว

 

 

นาย Michael เล่าว่า “ผมต้องวิ่งเพื่อที่จะตามมันให้ทัน ตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นลูกเทนนิสซะอีก ในฐานะที่ผมเป็นคนชอบถ่ายภาพ ผมคิดว่าแม้มันจะเป็นเรื่องที่แสนธรรมดาแต่ก็ยังมีความงดงามและสนุกสนานในตัวของมัน”

 

ชาวเน็ตหลายคนพอได้เห็นเรื่องราวดังกล่าวต่างก็แสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆ นานา

 

บ้างก็แบบว่า นี่ตรูทำอะไรของตรูฟร๊ะเนี่ย!?

 

“ตรูเพิ่งใช้เวลาชีวิตไป 1.51 นาที กับการนั่งดูเลมอนกลิ้งลงมาจากตลิ่ง นี่ตรูเป็นอะไรไปฟะเนี่ย!?”

“ในปี 2008 : ฉันกำลังยุ่งอยู่กับการหางานที่ใช่ และจัดการกับชีวิตของตัวเอง

ในปี 2018 : ฉันกำลังยุ่งอยู่กับการนั่งดูคลิปวิดีโอลูกเลมอนกลิ้งอยู่บนถนน”

 

บางคนก็มาแบบจริงจังเลย

 

“เจ้าเลมอนลูกนี้มันมีแรงจูงใจมากกว่าฉันเสียอีก อย่างน้อยมันก็มีที่ที่มันจะไป และมีที่ที่จะอยู่ เจ้าเลมอนลูกนี้จะไม่ยอมหยุดให้กับใครหรืออะไรก็ตาม เจ้าเลมอนลูกนี้เป็นไอดอลของฉัน เป็นเป้าหมายในชีวิตของฉัน ฉันรักเจ้าเลมอนลูกนี้”

 

ล่าสุดมีอัปเดตจากนาย Michael เขาเก็บเลมอนลูกนั้นมาด้วย!!

 

แถมชั่งน้ำหนักเรียบร้อย โดยเจ้าเลมอนลูกนี้มีน้ำหนักอยู่ที่ 262 กรัม อีกทั้งยังวางแผนที่จะนำเลมอนลูกนี้ไปให้ลูกของเขาดูด้วย

ส่วนเรื่องที่คลิปวิดีโอของเขากลายเป็นกระแสไวรัลโด่งดังไปทั่วอินเตอร์เน็ตพี่แกก็แปลกใจเหมือนกัน “ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงดังขนาดนี้ มันน่าตกใจมากๆ เลยล่ะ” Michael กล่าว

 

 

ที่มา : buzzfeed

Comments

Leave a Reply