ปลื้มใจ.. หลายฝ่ายรวมพลังนับ 100 ชีวิต ช่วยเหลือ “ชาวนา” ผู้เสียสละรับน้ำจากถ้ำหลวง

เหตุการณ์ ’13 ชีวิตติดถ้ำหลวง’ มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย เรื่องราวดีๆ ที่ผู้คนร่วมมือร่วมใจกัน การเสียสละเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ความมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์จากทั่วโลกที่ส่งแรงใจมาช่วย

หรือแม้แต่ข่าวร้าย การจากไปของจ่าแซม จ่าเอกสมาน กุนัน ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้น

และ “เหล่าเกษตรกร” ผู้เสียสละพื้นที่นาของตนเอง ให้เป็นแหล่งรับน้ำที่สูบออกมาจากถ้ำหลวง แม้พวกเขาจะรู้ดีว่ามันจะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย ก็ถือเป็นหนึ่งในฮีโร่ที่ผู้คนต่างยกย่องเชิดชู

โดยเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เหล่าทีมสูบน้ำต่างระดมเครื่องสูบน้ำ ไปช่วยสูบน้ำออกจากพื้นที่นาของเกษตรกรที่รับน้ำจากถ้ำหลวง เพื่อให้สภาพแปลงนากลับมาทำการเพราะปลูกได้อีกครั้ง

.

และเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมาทางเครือข่ายโรงเรียนชาวนา (สิงห์อาสา – เชียงราย) และเครือข่ายนักศึกษาสิงห์อาสาภาคเหนือ 8 สถาบัน ประกอบด้วย

– วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงราย

– มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

– มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย

– มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

– มหาวิทยาลัยแม่โจ้

– มหาวิทยาลัยนเรศวร

– มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง

– มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีล้านนา

ซึ่งรวมแล้วกว่า 100 ชีวิต ได้ลงพื้นที่บ้านหนองอ้อ หมู่ 2 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อร่วมกันดำนาในโครงการ “ต้นกล้ารับน้ำ” เพื่อตอบแทนความเสียสละของเกษตรกรผู้เป็นฮีโร่

โดยมีการนำต้นกล้าข้าวจำนวน 30 ไร่ ไปดำนาร่วมกับชาวบ้านในแปลงนาที่เสียหาย และมอบเมล็ดพันธุ์ข้าว 1 ตัน ให้กับชาวบ้าน

เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจที่เสียสละให้กับการช่วยเหลือทีมหมูป่าและโค้ช แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะปฏิเสธไม่รับการช่วยเหลือเยียวยาใดๆ

และชาวบ้านจะจัดการกับความเสียหายที่เกิดขึ้นเอง เพราะมองว่าชีวิตของเด็กๆ นั้นสำคัญกว่า ถ้าเสียไปแล้วไม่สามารถนำกลับคืนมาได้

.

ในส่วนของนาข้าว ถ้าเสียหายก็ยังสามารถปลูกมันขึ้นมาได้ใหม่

.

สิ่งที่ได้จากเหตุการณนี้นอกจากที่น้องๆทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิตรอดมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว ก็ได้เห็นความรักความปรารถนาดีของคนไทยอีกด้วย เชื่อแล้วว่าคนไทยไม่ทิ้งกันจริงๆ

.