มโนรึเรื่องจริง…ชาวเน็ตวิเคราะห์ ‘เจ๊เทย์’ เลิกกับแฟนใหม่แล้ว หลังภาพล่าสุดไม่สวมสร้อย!?

อย่างที่ทุกท่านรู้กันดีว่า ณ ตอนนี้เจ๊เทย์ หรือ Taylor Swift กำลังคบกับนักแสดงหนุ่มชาวอังกฤษสุดหล่อ Joe Alwyn อยู่

 

 

หลายๆ ครั้งมีการเปิดเผยภาพว่าทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกัน รวมไปถึงการสวมจี้ห้อยคอที่มีการสลักตัวอักษร J เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความรักอีกด้วย

 

 

ไม่ว่าจะไปไหนหรือทำอะไร เจ๊เทย์ ก็จะสวมจี้ห้อยคอนี้ไม่ให้ห่างกาย

 

สวมอยู่ตลอดไม่ถอดออกเลยแม้แต่ครั้งเดียว

.

 

หรือแม้แต่ทำคุกกี้รูปจี้ห้อยคอนั้นแจกเหล่าแฟนคลับอีกด้วย

 

แต่ภาพล่าสุดของเจ๊เทย์ ที่ถูกถ่ายขณะเธอกำลังเดินออกมาจากอพาร์ตเมนต์ที่นิวยอร์ก ขณะเดียวกัน Joe ไปร่วมชมการแข่งขันเทนนิส Wimbledon พบว่ามีบางอย่างที่แปลกไป

 

เพราะเจ๊เทย์ ไม่ได้สวมจี้ห้อยคออันนั้นอีกแล้ว!!

 

สร้อยหายไป!?

 

ชาวเน็ตทั้งหลายพอเห็นภาพนี้แล้วต่างก็คอมเมนต์กันไปต่างๆ นานา หลายคนก็สงสัยว่าทำไมเทย์ถึงไม่สวมสร้อยกันนะ!?

 

“ฉันรู้ดีว่าเรื่องของความสัมพันธ์มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการถอดสร้อยคอออก แต่ฉันก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเธอ และโจ จะยังคบกันอยู่นะ”

 

“ฉันอยากจะรู้จริงๆ ว่าทำไมเทย์ถึงไม่สวมสร้อยคอตัว J ของเธอล่ะ!?”

 

“เดี๋ยวนะ มันหมายความว่าอย่างไรถ้าเทย์ไม่สวมสร้อย!?”

 

“สร้อยของเธอหายไปไหน?????”

 

หลายคนก็สงสัยว่ามันหมายความว่าทั้งคู่เลิกกันแล้วเหรอ!?

 

“โอ้พระเจ้าจะเป็นอย่างไรถ้า Joe กับ Taylor เลิกกันแล้วน่ะ!?”

 

บางคนก็เริ่มตั้งคำถามว่าครั้งล่าสุดเทย์สวมสร้อยนั่นเมื่อไหร่กันนะ!?

 

แต่ชาวเน็ตบางส่วนก็บอกว่าให้ทุกคนใจเย็นก่อน บางทีที่ไม่ใส่สร้อยอาจจะไม่ได้หมายความว่าทั้งคู่เลิกกันแล้วก็ได้

 

“ที่เทย์ไม่ได้สวมสร้อย Joe น่ะ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย ก็แค่เธอไม่ใส่มันน่ะแหละ ทั้งคู่ยังคงรักกันอยู่”

 

“พวกนายจะจริงจังเรื่องสร้อยกันเกินไปแล้วนะ แค่เพราะเทย์ไม่สวมสร้อยก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเลิกกันสักหน่อย พวกนายไม่จำเป็นจะต้องทำให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ก็ได้”

 

อย่างไรก็ตามภาพจากอินสตาแกรมที่เทย์ลงล่าสุดเมื่อไม่กี่วันก่อนหลังจากที่เธอกลับจากการไปพักร้อนกับ Joe ก็ยังสวมสร้อยนี้อยู่

อาจจะเป็นแค่เพราะว่าเจ๊แกลืมสวมออกมาจากบ้านก็ได้ รอการประกาศอย่างเป็นทางการดีกว่า อย่าเพิ่งมโนไปไกลนะจ๊ะชาวเน็ตตตต!!

 

https://instagram.com/p/BlI6Fi1nVwZ/?utm_source=ig_embed

 

ที่มา : buzzfeedtaylorswift

Comments

Leave a Reply