เมื่อวานนี้ (22 ก.ค. 2018) ได้มีเรื่องราวที่ถูกพูดถึงกันอย่างหนัก เมื่อเจ้าสาวคนหนึ่งออกมาเล่าทั้งน้ำตากลางงานแต่งของตัวเอง หลังจากที่เจ้าบ่าวหนีหายไปก่อนถึงวันงานเพียงแค่ 1 วัน
อ่านข่าวเก่าได้ที่ลิงก์: เจ้าสาวกล่าวปิดงานแต่งทั้งน้ำตา เหตุเจ้าบ่าวชิ่งหนี ปล่อยให้เธอมางานแต่งงานคนเดียว…
แต่ล่าสุดทางฝ่าย เจ้าบ่าววัย 18 ปี ที่หายตัวไปนั้น ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางสื่อมวลชน เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด และเหตุผลที่ตนหนีหายไป
การสัมภาษณ์ที่เกิดขึ้น
#เหมียวตะปู จึงได้สรุปใจความสำคัญของการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ ออกมาเป็น 5 ข้อดังต่อไปนี้
1. ทั้ง 2 รู้จักกันครั้งแรกผ่านเฟซบุ๊ก ประมาณ 2 เดือนก่อนงานแต่งงาน โดนฝ่ายหญิงเป็นคนส่งคำขอเพิ่มเพื่อนมา เมื่อฝ่ายชายเห็นว่าน่ารักดีจึงกดรับเอาไว้และเริ่มพูดคุยกันหลังจากนั้น
2. พูดคุยกันได้อยู่ 1 สัปดาห์ ฝ่ายชายได้ขอนัดไปกินข้าวเย็น แล้วไปเที่ยวสถานบันเทิงด้วยกันต่อ หลังจากนั้นก็ได้มีอะไรกัน โดยฝ่ายชายยืนยันว่าทำไปครั้งเดียว และสวมใส่ถุงยางอนามัยป้องกันไว้แล้ว
3. ผ่านไป 1 สัปดาห์ ฝ่ายชายก็เริ่มตีตัวออกห่าง ส่วนหนึ่งเพราะว่าตนเองมีแฟนสาวที่คบหาดูใจกันอยู่แล้ว ทำให้เขาและฝ่ายหญิงจะได้คุยกันแค่นานๆ ครั้งเท่านั้น จนกระทั่งฝ่ายหญิงติดต่อกลับมาและบอกว่าตนเองท้อง
4. ฝ่ายหญิงบอกเรื่องนี้กับพ่อของฝ่ายชาย ทำให้ครอบครัวของเขาต้องเดินทางไปตกลงกับครอบครัวของอีกฝ่ายถึงที่บ้าน ซึ่งฝ่ายชายบอกว่าเขาฝืนใจยินยอมแต่งงาน แม้ว่าเขาจะบอกไปว่าไม่ได้รักเธอและก็เลิกกันไปแล้วด้วยซ้ำ
ฝ่ายหญิงตกลงว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าสินสอดทองหมั้นทุกอย่าง เมื่อถึงวันถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ทางฝ่ายชายก็จำใจเดินทางไปตามนัด
5. ฝ่ายชายตั้งใจว่าจะแต่งๆ ไปให้จบๆ แต่งเสร็จแล้วค่อยเลิกกัน แต่เมื่อจะถึงวันงาน ฝ่ายเจ้าสาวก็ได้บอกให้เขาหาเงินจำนวน 100,000 บาทมาเป็นค่าสินสอด เขาจึงเกิดความเครียดขึ้นมา ไม่รู้จะไปหาเงินจำนวนนั้นมาได้จากที่ไหน ซึ่งมันผิดจากที่คุยกันไว้ในครั้งแรก
ด้วยเหตุนั้นเอง เขาจึงหลบหนีไปก่อนวันงานจริง
ภาพการถ่ายพรีเว็ดดิ้ง
การที่เขาออกมาพูดในครั้งนี้ เพื่อหวังให้สังคมเข้าใจเขาบ้าง เพราะเขายังคงยืนยันว่าตนเองไม่ได้รักเจ้าสาวเลย และก็เลิกกันไปแล้ว ที่ยอมแต่งงานด้วยเพราะต้องการรับผิดชอบที่เจ้าสาวบอกว่าตัวเองท้องเท่านั้น
แต่สุดท้ายเขาก็ถูกบีบด้วยเงินค่าสินสอดอย่างที่เล่าไป จึงทำให้เครียดและตัดสินใจหนีในที่สุด
ทางด้านคุณพ่อของเขา นายอเนก ก็กล่าวขอโทษทางฝ่ายเจ้าสาวผู้เสียหาย และอยากขอความเห็นใจจากสังคมด้วย
นายอเนกเล่าว่า เมื่อวันงานตนเองและญาติๆ ได้เตรียมความพร้อม ทั้งต้นกล้วย ต้นอ้อย ผ้ารับไหว้ ซองผ่านประตู 40 ซอง
รวมถึงเงินค่าสินสอดที่จู่ๆ ฝ่ายเจ้าสาวก็มาเรียกเอาก่อนไม่กี่ชั่วโมง ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุยกันในตอนแรก และเขาก็ไกล่เกลี่ยจนเหลือเพียง 60,000 บาท ทว่าก็ไม่ได้บอกให้ลูกชายได้ทราบในเรื่องนี้
คลิปการให้สัมภาษณ์ (หากดูไม่ได้กดที่ลิงก์ Video)
อย่างไรก็ตาม นายอเนกก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น และยินดีที่จะหันหน้าเข้าไกล่เกลี่ยกับทางฝั่งเจ้าสาว หากว่าจะมีการดำเนินคดีใดๆ เกิดขึ้นในอนาคต
ที่มา: sanook
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.