ได้กลายเป็นที่ฮือฮาดราม่ากันอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อมีกรณีของนักศึกษาวัย 22 ปีคนหนึ่งที่ลุกขึ้นมาขัดขวางไม่ให้กัปตันสามารถนำเครื่องบินขึ้นได้ เพื่อเป็นการปกป้องชาวอัฟกานิสถานคนหนึ่งที่กำลังจะถูกเนรเทศออกนอกประเทศ!!
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากความที่ Elin Ersson นักศึกษาและนักเคลื่อนไหวจากมหาวิทยาลัย Gothenburg University ประเทศสวีเดน ได้ซื้อตั๋วเดินทางจากเมืองโกเตนเบิร์กไปยังเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
โดยในเครื่องบินลำที่เธอขึ้นนั้น ก็มีชาวอัฟกานิสถานคนหนึ่งที่จะไปจุดหมายเดียวเพื่อเปลี่ยนเครื่องต่อไปเมืองคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน จากคำสั่งเนรเทศของทางการ
คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อเธอได้รู้ดังนั้นจึงได้ทำการขัดขวางการเนรเทศนี้ด้วยการไม่ยอมนั่งเก้าอี้ เพราะเธอรู้กฎดีว่าหากผู้โดยสารไม่นั่งประจำที่ กัปตันจะไม่สามารถนำเครื่องขึ้นบินได้ ดังนั้นเธอจึงยืนยันปฏิเสธการนั่งที่จนกว่าชายคนนี้จะถูกปล่อยตัวลงจากเครื่องบินก่อน
ในระหว่างนั้นเองเธอได้หยิบโทรศัพท์มือถือมาบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ เอาไว้ด้วย ซึ่งมีอยู่คำพูดหนึ่งที่เธอกล่าวออกมาว่า “ถ้าหากชายคนนี้ถูกส่งตัวกลับไปเขาจะต้องถูกฆ่าแน่ๆ” และ “ฉันพยายามจะเปลี่ยนกฎของประเทศนี้ มันไม่ถูกต้องเลยที่จะส่งใครก็ตามลงไปอยู่ในนรก”
ภายในคลิปจะเห็นได้ว่าในในตอนเริ่มแรกทั้งลูกเรือรวมถึงผู้โดยสารคนอื่นๆ ก็พยายามขอร้องให้เธอนั่งประจำที่เครื่องบินจะได้ออกตัวสักที ทว่าเธอก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเธอจะทำก็ต่อเมื่อชายคนนี้ถูกปล่อยตัวเท่านั้น
และมีอยู่ช่วงหนึ่งจะเห็นได้ว่ามีผู้โดยสารพยายามจะเข้าแย่งโทรศัพท์ของเธอไป แต่เธอก็ถามคำถามที่ทำให้ต้องตะลึงไปว่า “คุณคิดว่าอะไรสำคัญไปกว่ากันระหว่าง หนึ่งชีวิตกับเวลาของคุณ?”
“ทั้งหมดที่ฉันต้องการก็คือแค่หยุดการเนรเทศครั้งนี้ซะ แล้วฉันจะยอมทำตามกฎของที่นี่” Elin กล่าว
จนในท้ายที่สุดแล้วเธอก็ได้สิ่งที่เธอเรียกร้องนั่นคือ ชายชาวอัฟกันคนดังกล่าวถูกปล่อยตัวลงจากเครื่องบินและการเนรเทศครั้งนี้ก็ต้องถูกระงับไป แต่ทางเจ้าหน้าที่ของสวีเดนก็พูดถึงเรื่องนี้ว่าถึงอย่างไรแล้วชายคนนี้ก็ต้องถูกส่งตัวกลับประเทศอยู่ดี แม้ว่าในตอนนี้ยังไม่ระบุวันเวลาที่แน่ชัด
และสำหรับ Elin ก็อาจจะต้องเผชิญโทษจำคุกถึง 6 เดือนเต็มๆ จากการปฏิเสธคำสั่งของเจ้าหน้าที่ด้วย…
อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดแล้วจะเห็นได้ว่ามีผู้โดยสาารบางคนเห็นด้วยกับเธอ ทั้งการปรบมือให้อย่างเกรียวกราวเมื่อชายคนนั้นถูกพาตัวออกจากเครื่อง รวมถึงชาวเน็ตด้วยเช่นกันที่เห็นว่าวีรกรรมของเธอในครั้งนี้สมควรได้รับการเรียกว่าฮีโร่จริงๆ พร้อมกับตั้งแฮชแทคให้ว่า #ElinErsson
Elin ต้องขอขอบคุณจริงๆ สำหรับความกล้าหาญ ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นและความหวังในครั้งนี้ คุณได้ส่งข้อความถึงพวกเราทุกคนให้ออกมาต่อสู้กับสิ่งที่พวกเราเชื่อ และไม่อายที่จะแสดงออกว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่ถูกต้อง
นี่สิคือสิ่งที่ซูเปอร์ฮีโร่ควรจะเป็น ดูจนจบคลิปนะ
โลกของเราต้องการคนอย่างเธอ และเราก็ควรเป็นอย่างเธอด้วย
#ElinErsson the world needs more people like Elin. We should all be like Elin.
— David Usher (@ddavidu) July 25, 2018
ที่มา: dailymail, theguardian
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.