ชายหนุ่มเล่าประสบการณ์อุบัติเหตุรถชนครั้งแรก ที่ทำให้เขาต้องจำไปตลอดชีวิต

***บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่รุนแรง ไม่แนะนำให้กินน้ำแดงระหว่างอ่าน!!***

อย่างที่ใจความของคำเตือนด้านบนได้บอกเอาไว้ เรื่องราวต่อไปนี้อาจจะมีภาพและเนื้อหาที่รุนแรง แต่อย่างไรก็ตาม #เหมียวเวจจี้ เชื่อว่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับใครที่ชอบขับรถด้วยความประมาทได้อย่างแน่นอน

Brian Latch ชายหนุ่มวัย 25 ปี จากมหาวิทยาลัย University of Mississippi ถึงแม้ว่านี่จะเป็นอุบัติเหตุครั้งแรก แต่มันก็สร้างประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมให้กับเขาเลย

เหตุการณ์เกิดขึ้นในระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังขับรถอยู่บนทางด่วนสายหนึ่ง Brian ยอมรับว่าตัวเขาเองไม่ทันได้สังเกตรถแทร็กเตอร์ที่อยู่ด้านหน้า ในระหว่างที่กำลังวิ่งมาด้วยความเร็วประมาณ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

รถ SUV ของชายหนุ่มชนเข้ากับรถแทร็กเตอร์คันดังกล่าวอย่างจังจนหมุนหลายตลบ และมีสภาพพังยับเยินอย่างที่เราเห็นในภาพด้านล่าง

“ผมรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก แต่ก็พยายามควบคุมสติเอาไว้ ผมจับพวงมาลัยไว้แน่น และเมื่อรถหยุดหมุนผมก็รู้สึกว่าจมูกของผมได้รับการกระแทก แต่ในตอนนั้นผมไม่ทันได้สังเกตว่ามีเลือดออกที่หัวด้วย” Brian ให้สัมภาษณ์กับ Unilad

ชายหนุ่มถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน และนอกจากอาการบาดเจ็บที่หน้าแล้ว แพทย์ยังพบว่าเขามีกระดูกสะโพกและกระดูกเชิงกรานแตกอีกด้วย

แพทย์ต้องผ่าตัดฉุกเฉินเพื่อช่วยชีวิตเขา และน่าเศร้าที่หนึ่งสัปดาห์ให้หลัง แพทย์พบการติดเชื้อที่สะโพกจึงต้องทำการผ่าตัดใหม่

“ตอนนั้นผมกลัวมากแต่ก็ต้องพยายามฝืนเอาไว้ หมอทำการบล็อคหลังผมก่อนที่จะผ่าตัด การฟื้นตัวของผมเป็นไปอย่างยากลำบาก ในวันแรกๆ ผมรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากจนกรีดร้องออกมา มันเป็นเหมือนฝันร้ายของผมเลย และผมรู้สึกกลัวทุกครั้งที่นึกถึงมัน” ชายหนุ่มให้สัมภาษณ์

การขับรถกลายเป็นเหมือนกับฝันร้ายของ Brian เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดและกายภาพบำบัดอยู่นานหลายเดือน

และแล้วเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา การผ่าตัดครั้งสุดท้ายของเขาก็ผ่านไปได้ด้วยดี ชายหนุ่มกลับมาเดินได้อีกครั้ง

ถึงแม้ว่าจะเป็นโชคดีที่ Brian ไม่ได้สูญเสียอวัยวะสำคัญของเขาไปพร้อมกับอุบัติเหตุ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ก็ได้มอบบทเรียนที่สำคัญในการขับรถให้กับเขา

“เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมอยู่บนรถกับคนอื่น ผมจะคอยบอกให้พวกเขาระมัดระวังเสมอ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เป็นคนขับเอง แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ผมเจอมา คงจะเป็นบทเรียนให้กับพวกเขาได้เป็นอย่างดี และผมคิดว่าบทลงโทษสำหรับคนที่ขับรถโดยประมาทไม่ได้มีเพียงเท่านี้” ชายหนุ่มกล่าวทิ้งท้าย

ที่มา unilad