พบเครื่องบินที่สูญหายในสงครามโลก ที่ใต้น้ำแข็งใน “เบอร์มิวดาแห่งกรีนแลนด์”

การที่เครื่องบินจะตกหรือนักบินจะเสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่สองอาจจะถูกมองเป็นเรื่องธรรมดา แม้การที่เครื่องบินหายไปอย่างไร้ร่องรอยเองก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ในสมัยที่ศัตรูจะแอบอยู่ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้

แต่การพบเครื่องบินที่หายไปกว่า 70 ปีหลังจากสงครามที่ว่าต่างหากที่ไม่ใช่เรื่องที่หาชมได้ง่ายนัก

 

 

เพราะล่าสุดนี้เองมีการตรวจพบซากของเครื่องบิน Lockheed P-38 Lightning เครื่องบินของสหรัฐอเมริกาจากยุคสงครามโลกครั้งที่สองอยู่ใต้น้ำแข็งเย็นยะเยือกที่กรีนแลนด์ เขตปกครองตนเองแห่งประเทศเดนมาร์ก

นี่คือหนึ่งในฝูงบินที่สูญหายในระหว่างการบินจากสหรัฐอเมริกาไปยังอังกฤษในปี 1942 ซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิด B-17 2 ลำ และเครื่องบินต่อต้าน P-38 อีก 6 ลำ ซึ่งเชื่อกันว่าพบกับพายุ จนตกลงในกรีนแลนด์นั่นเอง

 

ในการสูญหายครั้งนั้น มีเพียงเครื่องบิน B-17 ลำเดียวที่ถูกพบ

 

การค้นหาในครั้งนี้ดำเนินการโดยการใช้โดรนบินสำรวจทางอากาศ ที่ติดเรดาร์ทะลุทะลวงผิวดิน (Ground Penetrating Radar) เอาไว้ และหากมีการค้นพบสิ่งที่น่าสนใจ จะมีการส่งทีมค้นหาเข้าไปอีกที

Jim Salazar ผู้นำการค้นหาบอกว่าทีมงานได้พบกับซากของเครื่อง P-38 ฝังอยู่ใต้น้ำแข็ง 91 เมตร ในวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการขุดนำเครื่องขึ้นมานั้น จะมีการดำเนินการในฤดูร้อนครั้งหน้า

 

เครื่องบิน P-38 Lightning

 

พวกเขายังหวังอีกว่าในระหว่างที่รอพวกเขาจะสามารถค้นพบเครื่องบินที่หายสาบสูญลำอื่นๆ เพิ่ม โดยเฉพาะเครื่องที่มีนักบินสหรัฐอยู่ด้วยนั่นเอง

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเครื่องบินสูญหายไปในพื้นที่บริเวณนี้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เพราะด้วยความที่สภาพอากาศในพื้นที่เปลี่ยนแปลงได้ง่ายบวกกับการที่มีพายุพัดอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ที่ผ่านๆ มามีเครื่องบินรบของสหรัฐฯ สูญหายไปในที่แห่งนี้อยู่เป็นจำนวนมาก เช่นเครื่องบิน Grumman J2F Duck ที่สูญหายไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 1942 เป็นต้น

 

การทำงานของทีมค้นหา

 

ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่พื้นที่แห่งนี้จะถูกขนานนามกันว่า

“เบอร์มิวดาแห่งกรีนแลนด์” โดยคนที่ได้ยินกิตติศัพท์ของที่แห่งนี้

 

ที่มา livescience


Tags:

Comments

Leave a Reply