เมื่อเราอยากจะกลับบ้าน แต่หมดหนทางไป จะเดินก็ไกล รถรับส่งสาธารณะทั้งหลายก็ไม่ยอมไปส่ง อีกหนทางที่คิดออกในตอนนั้นอาจเป็นการโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากผู้รักษากฎหมาย
ถ้าขอดีๆ อาจไม่มีปัญหาอะไร ขอแค่ไม่ทำเหมือนชายคนนี้ก็พอ เพราะเขาดันโทรไปแจ้งกับสถานีตำรวจว่า “ขโมยปืนมา” เพียงเท่านั้นแหละ ความหวังที่จะได้กลับบ้านก็ดับวูบไปในทันที
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นจังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เวลาประมาณเกือบ 6 โมงเย็นของวันที่ 22 สิงหาคม 2018 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชายนิรนามคนหนึ่งที่ใช้โทรศัพท์สาธารณะโทรเข้ามาว่า
“ตอนนี้ผมกำลังมุ่งหน้าไปที่ป้อมตำรวจ Wajiro ผมขโมยปืนพกมา ขอความกรุณาว่าช่วยเล็งตอบโต้แค่ที่เท้าของผมด้วย”
เมื่อตำรวจได้รับแจ้งมาอย่างนั้น เจ้าหน้าที่ 9 นายจึงเตรียมอาวุธครบมือ พร้อมต่อสู้กับผู้ร้าย และรีบมุ่งตรงไปยังสถานที่เกิดเหตุ
แต่เมื่อไปถึง สิ่งที่พวกเขาได้พบก็คือ ชายว่างงานวัย 68 ปีที่กำลังอยู่ในสภาพเมาสุรา นั่งบ่นพึมพำกับตัวเอง
ตำรวจจึงทำการจับกุมตัวเขาไป แต่ก็ไม่พบปืนพกอย่างที่เขาแจ้งไว้ในตอนแรก ก่อนจะได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้วชายคนนั้นแค่หลงทางและต้องการจะขอติดรถกลับบ้านกับตำรวจเท่านั้นเอง
ผู้ต้องหาให้การว่า “แท็กซี่ไม่ยอมจอดรับผม ผมเลยคิดว่าถ้าโทรแจ้งตำรวจว่าตัวเองขโมยปืนมาก็คงจะติดรถกลับไปบ้านได้”
แต่ว่าเจ้าหน้าที่ไม่ใจดีอย่างนั้น แทนที่ชายคนนี้จะได้กลับไปนอนบ้านอย่างสบายอารมณ์ สุดท้ายเขาถูกพาตัวไปนอนในคุกซะแทน ตามข้อหาแจ้งความเท็จ (ไม่มีการรายงานว่าเขาต้องเสียค่าปรับหรือไม่อย่างไร)
ส่วนหนึ่งที่ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่อาจอะลุ้มอล่วยให้ได้ก็เพราะว่าในเดือนมิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์โจรขโมยปืนเจ้าหน้าที่ ยิงคนเสียชีวิตไป 2 ราย ทางสถานีจึงถือว่าการแจ้งความเท็จของเขาเป็นเรื่องที่ร้ายแรงอย่างมาก
เพราะฉะนั้นแล้ว เราขอแนะนำให้ใช้วิธีอื่นดีกว่า
ถ้าไม่อยากจะต้องไปนอนในคุกเหมือนอย่างชายคนนี้
ที่มา: soranews24 , livedoor , goldennews
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.