13 นักแสดงผู้เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อเข้าถึงบทบาท เอาซะจำกันแทบไม่ได้ ยอมใจในความพยายาม

เราอาจเคยเห็นว่านักแสดงคนเดียวกันแต่แสดงหนังคนละเรื่อง หลายๆ อย่างของนักแสดงคนนั้นก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามบทบาทที่พวกเขาได้รับ

เช่นเดียวกับเหล่านักแสดงชื่อดังทั้ง 13 คนนี้ เมื่อพวกเขายอมลงแรงลงกาย เปลี่ยนตัวเองให้เข้าถึงบทบาทได้มากที่สุด จนบางทีเราก็อาจจะจำพวกเขากันแทบไม่ได้เลยจริงๆ ลองไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีดาราในดวงใจของเราหรือเปล่า

 

1. Jared Leto ในหนังเรื่อง Dallas Buyers Club (2012)

เขาได้รางวัลออสการ์จากหนังเรื่องนี้ โดยลงทุนลดน้ำหนักไปมากถึง 14 กิโลกรัม เพื่อให้ตัวเองเข้าถึงบทบาทให้ได้มากที่สุด แถมเขายังอยู่ในสภาพนี้เกือบตลอดเวลา แม้แต่ตอนออกไปช็อปปิ้ง ซื้อของในห้าง

 

ในหนังเรื่อง Chapter 27 (2007)

นี่เป็นบทบาทที่เขาต้องเพิ่มน้ำหนักตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิมถึง 30 กิโลกรัม จนมีคอเรสเตอรอลสูง เป็นเกาต์ ปวดหลัง และจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ จนต้องนั่งรถเข็นแทนการเดินตามปกติอยู่บ้าง

นักแสดงหนุ่มเล่าว่าการเพิ่มน้ำหนักมากขนาดนั้น เขาจึงไม่เคยฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิมได้ 100 เปอร์เซ็นต์อีกเลย

 

2. Charlize Theron ในหนังเรื่อง Monster (2003)

นอกจากการเพิ่มน้ำหนักขึ้นไปอีก 14 กิโลกรัม เธอยังต้องเปลี่ยนสภาพตัวเองให้ต่างออกไปอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการย้อมผม โกนคิ้ว ใส่ฟันปลอม แต่งหน้าให้ดูแก่

นักแสดงสาวเล่าว่าเธอเลือกการเพิ่มน้ำหนัก แทนการแต่งชุดคนอ้วน เพราะต้องการที่จะขยับและแสดงความเป็นตัวละครออกมาให้ได้มากที่สุด

 

3. Christian Bale ในหนังเรื่อง American Hustle (2013)

Christian เพิ่มน้ำหนักไปกว่า 18 กิโลกรัม จนต้องเดินตัวงอ และเป็นไส้เลื่อน ซึ่งเขาใช้วิธีการกินพายเข้าไปเยอะๆ จนอ้วนได้ขนาดนี้ หลังจากนั้นก็ต้องใช้เวลากว่า 6 เดือนในการลดน้ำหนักกลับมาเหมือนเดิม

 

ในหนังเรื่อง The Machinist (2004)

นี่คงเป็นหนึ่งในสุดยอดการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเข้าถึงบทบาท Christian ทำให้ตัวเองน้ำหนักลดลงไปกว่า 28 กิโลกรัม ต้องการให้ตัวเองหนักแค่ 45 กิโลกรัม แต่ทางทีมงานขอให้เขาไม่ต่ำไปกว่า 54 กิโลกรัม เพราะอาจจะอันตรายต่อสุขภาพ

สภาพอันน่าทึ่งของนักแสดงหนุ่มกลับมาฟื้นฟูเป็นเหมือนเดิมได้ภายใน 1 ปี เพื่อรับบทต่อในหนังเรื่อง Batman Begins ปีถัดไป

 

4. Gwyneth Paltrow ในหนังเรื่อง Shallow Hal (2001)

การแต่งหน้า เปลี่ยนนักแสดงสาวให้กลายเป็นสาวอ้วน ทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง จนทำให้เธอเดินไปไหนมาไหนก็ไม่มีใครจำได้เลยแม้แต่น้อย

 

5. Matthew McConaughey ในหนังเรื่อง Dallas Buyers Club (2012)

เพื่อรับบทเป็นคนไข้โรคเอดส์ เขาจึงลดน้ำหนักลงไปจากเดิมกว่า 21 กิโลกรัม โดยใช้เวลาแค่ 2 สัปดาห์ในการลด 3.6 กิโลกรัมแรก จัดตารางให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีออกไปวันละ 1,800 แคล กินแต่ผักกับปลาแค่ 140 กรัม

เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องยากที่ต้องลดเหลือ 72 กิโลกรัม แต่หลังจากนั้นเขาก็สามารถลดลงไปจนเหลือแค่ 68 กิโลกรัมได้ง่ายๆ

 

6. Jake Gyllenhaal ในหนังเรื่อง Southpaw (2015)

การเป็นนักมวยมืออาชีพไม่ใช่เรื่องง่าย Jake ต้องออกกำลังกายติดกันทุกวันนาน 5 เดือน หลังจากที่เพิ่งลดน้ำหนักมาจากหนังเรื่องก่อน ซิทอัพวันละ 2,000 ครั้ง วิ่งวันละเกือบ 13 กิโลเมตร โหมเล่นกล้ามอย่างหนัก

 

7. Cate Blanchett ในหนังเรื่อง I’m Not There (2017)

เพิ่มความเป็นชายจนดูกันแทบไม่ออกเลยว่าเธอคือใคร สวมวิก ใส่แว่นกันแดด เสื้อผ้าผู้ชาย และ “ใส่ถุงเท้า” ซึ่งเธอบอกว่ามันช่วยทำให้เธอเดินได้เหมือนผู้ชายมากกว่าเดิม

 

8. Edward Norton ในหนังเรื่อง American History X (1998)

เราจะเห็นว่าเขาโกนหัวและเพิ่มน้ำหนักขึ้นไปอีกเกือบ 14 กิโลกรัม โดยใช้วิธีการกินอาหารวันละ 7 มื้อ ที่เน้นไปที่ไก่ ไก่งวง และปลาเป็นหลัก

 

9. Marlon Brando ในหนังเรื่อง The Godfather (1972)

เขาทั้งลดน้ำหนัก ทำเสียงให้เป็นเอกลักษณ์ ต้องยัดสำลีเอาไว้ในกระพุ้งแก้มขณะถ่ายทำ ใส่ฟันปลอม และแต่งหน้าให้ดูแก่ลง เพื่อรับบทเป็น Frank Costello เจ้าพ่อมาเฟียในอดีต จนได้รับรางวัลออสการ์ไป

 

10. Elle Fanning ในหนังเรื่อง Three Generations (2015)

การเข้าถึงบทบาท “สาวหล่อ” นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องแต่งตัวเป็นผู้ชาย ทำตัวเป็นผู้ชาย จนทำให้เธอถูกจับตามอง เริ่มมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ตอนนั้น

 

11. Robert De Niro ในหนังเรื่อง Raging Bull (1980)

เขาต้องเพิ่มน้ำหนักขึ้นมาอีกกว่า 27 กิโลกรัม แถมยังต้องขึ้นชกมวยจริงๆ ก่อนถ่ายทำ โดยชนะไป 2 ใน 3 แมตช์ นอกจากนั้นเขายังต่อยซี่โครงนักแสดงภายในหนังหักจริงๆ อีกด้วย

 

12. Rooney Mara ในหนังเรื่อง The Girl with the Dragon Tattoo (2011)

แม้ผู้กำกับจะไม่ได้สั่ง แต่เพื่อเข้าถึงลุคคนติดยาให้ได้มากที่สุด เธอจึงตัดสินใจลดน้ำหนัก ทำให้ตัวเองดูผอมซูบกว่าเดิม แถมเธอยังเจาะหู เจาะปากจริงๆ รวมถึงเจาะหัวนมนั่นก็ด้วย

 

13. Tom Hanks ในหนังเรื่อง Philadelphia (1993)

การเป็นคนไข้โรคเอดส์ ทำให้นักแสดงชื่อดังต้องลดน้ำหนักลงไปอีกเกือบ 14 กิโลกรัม เพื่อทำให้ฉากขึ้นศาลของเขามีความสมจริง เป็นบทบาทนั้นจริงๆ อย่างที่ตั้งใจเอาไว้

 

ที่มา: brightside

Comments

Leave a Reply