นศ. สาวติดนิสัย ‘กัดเล็บ’ จนหายเกลี้ยง ส่งผลร้ายเป็นมะเร็งรุนแรง ถึงขั้นต้องตัดนิ้วทิ้ง…

* ภาพประกอบเนื้อหาดังต่อไปนี้ อาจมีความรุนแรงต่อสภาพจิตใจ *

 

นิสัยความเคยชินบางอย่างที่อาจมองได้ว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย จะสามารถส่งผลเสียร้ายแรงต่อร่างกายของเรากันได้เลยทีเดียว อย่างเช่นนิสัยการกัดเล็บเช่นนี้…

 

Courtney Whithorn

 

Courtney Whithorn นักศึกษาวัย 20 ปี เริ่มมีอาการวิตกกังวล มาตั้งแต่ในช่วงที่ถูกรังแกในโรงเรียน อันเป็นสาเหตุที่นำไปสู่การกัดเล็บนิ้วโป้งเป็นประจำเมื่อเกิดอาการ ตั้งแต่ช่วงปี 2014

ต่อมาการกัดเล็บของเธอเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เพียงแค่การกัดที่ปลายเล็บ แต่ลามไปจนถึงการกัดทั้งเล็บบนนิ้วโป้งหายไปทั้งหมด…

 

 

หลังจากนั้นนิ้วโป้งที่ไร้เล็บของเธอ เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำและทำให้เธอรู้สึกอาย แต่แทนที่จะไปหาหมอกลับเก็บซ่อนไว้ไม่ให้ครอบครัวและเพื่อนๆ รู้ กำนิ้วโป้งเก็บไว้เสมอและใส่เล็บปลอมมานานกว่า 4 ปี

การปล่อยนิ้วเล็บเปลือยเปล่าเป็นระยะเวลานาน ก็ลุกลามกลายมาเป็นเนื้อมะเร็งร้ายที่กัดกินเล็บเธอ นั่นก็คือมะเร็งเมลาโนมา (Acral lentiginous)

 

 

“ตอนที่ฉันเพิ่งจะรู้ว่าการกัดเล็บจนเกลี้ยงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็ง มันทำให้ฉันรู้สึกช็อคมาก ในหัวคิดได้เพียง ‘ทำตัวเองทั้งนั้น’ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ควรทำ” Courtney ให้สัมภาษณ์

หลังจากที่ผลวินิจฉัยออกมาในเดือนกรกฎาคม เธอต้องเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมถึง 4 ครั้ง เพื่อรักษานิ้วโป้งของเธอเอาไว้ แต่ผลสุดท้ายในครั้งที่ 4 จำเป็นที่จะต้องตัดนิ้วของเธอทิ้งไป เนื่องจากเกินกว่าที่จะเยียวยาได้แล้ว

 

 

“เมื่อคุณได้ลองนึกถึงจำนวนเด็กที่มีนิสัยกัดเล็บ มันจะรุนแรงได้มากขนาดไหน ฉันเริ่มรู้สึกกลัวมากๆ ตอนที่เนื้อเล็บเริ่มเป็นสีดำ แล้วก็เพิ่งจะบอกให้กับคนอื่นได้รู้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ฉันแทบจะบอกใครไม่ได้เลยว่า ฉันมีความรู้สึกประหม่ามากแค่ไหน ตอนที่อาการเริ่มลุกลาม”

 

 

เธอไปหาหมอเพื่อปรึกษาหาทางออกด้วยวิธีการศัลยกรรม โดยในช่วงแรกคาดว่าจะต้องทำการเสริมเนื้อเล็บขึ้นมาด้วยการศัลยกรรมพลาสติก เพื่อกำจัดสีดำบนเนื้อเล็บออกไป

แต่เมื่อทำการตรวจชิ้นเนื้อแล้ว ทางแพทย์จึงแนะนำว่ามันไม่ใช่เพียงแค่สีดำธรรมดา แต่เป็นมะเร็งร้ายที่ลุกลามกินไปทั่วนิ้วโป้ง ซึ่งทางออกทางเดียวที่จะทำได้คือ ‘การตัดนิ้วทิ้ง’

 

 

จากต้นเหตุที่ถูกรังแกในช่วงอายุ 16 ปี วัยเรียนเกรด 11 (ชั้นม. 5) ความเครียดและกังวลสั่งสมบ่มเพาะจนทำให้เกิดนิสัยการกัดเล็บขั้นรุนแรง และการปล่อยทิ้งไว้จนสายเกินไป ก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรงถึงขนาดนี้ได้เลย

Courtney กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า เธอต้องการจะแชร์เรื่องราวของเธอเอง ให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความอันตรายจากการกัดเล็บแบบนี้ด้วย

 

 

ที่มา: dailymail, mirror, thesun, sfgate, newideametro


Tags:

Comments

Leave a Reply