ธุรกิจประเภทนี้ยังคงไม่หมดไปเสียที ต่อให้มีการรณรงค์ มีกฎหมายห้ามแล้วก็ตาม แต่การล่าสัตว์ก็ยังคงเกิดขึ้นทุกวัน แม้จะต้องจ่ายเงินเข้าไปฆ่าสัตว์ ก็ยังมีคนยอมจ่ายเงินหลักแสนหลักล้าน เพื่อออกล่าสัตว์ที่ต้องการ โดยเฉพาะสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์
ทั้งช้าง ม้าลาย และแรด ต่างเป็นสัตว์ที่ถูกฆ่าโดยน้ำมือของมนุษย์ ผู้ที่ยอมจ่ายเงินแลกกับการออกล่าชีวิตของพวกมัน…
ทุกๆ ครั้งที่นาย George Ragozin วัย 45 ปี หรือลูกค้าสามารถฆ่าสัตว์ป่าเหล่านี้ได้จากการออกทัวร์ล่าสัตว์ ก็จะทำการถ่ายรูปคู่กับศพของพวกมัน พร้อมกับยิ้มแย้มภูมิใจในการล่าของตน ในบริเวณแหล่งอนุรักษ์สัตว์ ประเทศแอฟริกาใต้
แพคเกจการล่าสัตว์จะเริ่มต้นตั้งแต่ 160,000 บาท สำหรับทัวร์ 10 วันในการล่าวิลเดอบีสต์และม้าลาย แพคเกจ 688,000 บาท สำหรับการล่าสิงโต และแพคเกจ 1,114,000 บาท สำหรับการออกล่าเสือดาว
ทัวร์ล่าสัตว์ยังมีที่แพงกว่านั้นด้วยมูลค่า 1,800,000 บาท แพคเกจ 5 วันในการออกล่าแรดขาวหรือการออกล่าช้างเป็นระยะเวลา 12 วัน
ข้อเสนอแพคเกจอื่นๆ ที่แพงสูงที่สุดคือการออกล่า 7 วัน ตามหาแรดดำ สายพันธุ์แรดที่ใกล้จะสูญพันธ์ุไปจากโลก ด้วยมูลค่า 18,000,000 บาท
สำหรับนาย George Ragozin อดีตเคยเป็นศัลยแพทย์ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซียมาก่อน ปัจจุบันเป็นคุณพ่อลูกสาม และหันมาทำธุรกิจทัวร์ล่าสัตว์ในแอฟริกาใต้แทน เนื่องจากเงินเดือนที่ได้รับจากการเป็นศัลย์แพทย์นั้นไม่พอใช้ ที่ได้เพียงประมาณ 9,800 บาทต่อเดือนเท่านั้น
ซึ่งหลังจากที่หันมาทำธุรกิจทัวร์ล่าสัตว์นี้ มานานกว่า 15 ปี เขาสามารถทำรายได้มากถึง 49,000,000 บาทต่อปีเลยทีเดียว และเขายังอ้างอีกว่าทุกทริปถูกจองเต็มหมดแล้วไปจนถึงปี 2020
เรื่องราวของ George Ragozin ปรากฎฏอยู่บนหน้าสื่อของรัสเซียและทั่วโลก หลังจากที่มีภาพของเขาและลูกสาวทั้งสองคน Ksenia และ Dana ถ่ายรูปคู่กับสัตว์ป่าที่เพิ่งถูกฆ่า จึงเกิดเป็นข้อครหาว่าเขาส่งเสริมให้เด็กออกล่าสัตว์ และการเปิดธุรกิจดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายหรือไม่…
ทั้งนี้นาย Ragozin ได้กล่าวว่าการออกล่าของเขาในแอฟริกาใต้ รวมไปถึงพื้นที่ซาฟารีในประเทศซิมบับเว โมซัมบิก บูร์กินาฟาโซ และนามีเบียนั้น ได้รับอนุญาตและเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายทั้งหมด
อีกทั้งตัวเขาเองก็ยังเป็นนักล่าที่มีใบอนุญาตล่าสัตว์ เป็นสมาชิกสมาคมนักล่าสัตว์มืออาชีพแห่งแอฟริกาใต้ สมาคมซาฟารีสากล และสมาคมนักล่าสัตว์สากล อีกด้วย
เขากล่าวว่า “ผมเคยอยากจะเป็นแพทย์มากๆ เมื่อก่อน ผมได้เข้าศึกษาทางด้านศัลยแพทย์ในมอสโก แต่พอจบมารับเงินเดือนเพียง 9,800 บาท มันเป็นอะไรที่น่าละอาย เพราะผมแต่งงานตั้งแต่ตอนยังเรียนอยู่ และไม่มีทางที่จะหาเงินมาจุนเจือครอบครัวให้พอได้เลย”
ถึงแม้จะมีข้อครหาจากองค์กรต่างๆ เขากลับเห็นแย้งว่าการออกล่าสัตว์นั้น เป็นประโยชน์ต่อการควบคุมประชากรสัตว์ป่า เป็นหนึ่งในวิธีการควบคุมประชากร ทั้งที่องค์กรอนุรักษ์สัตว์ไม่เคยทำได้เลย…
‘ผมเชื่อว่าการล่าสัตว์เป็นหนึ่งในวิธีการอนุรักษ์ และนักล่าก็จัดการธรรมชาติได้ดีกว่าใครเสียอีก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากแอฟริกาใต้ประกาศให้การล่าเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย จำนวนสัตว์ป่าก็จะเพิ่มมากขึ้น 8 เท่า การจัดการสัตว์เหล่านี้คือสิ่งที่สำคัญในธุรกิจล่าสัตว์ มันเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจน ยิ่งมีสัตว์เยอะ ก็ยิ่งทำให้ธรุกิจดีขึ้น’
‘แอฟริกาใต้เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการจัดการที่ดีสำหรับการออกล่าสัตว์ และกลายมาเป็นธุรกิจที่ให้ผลกำไรตอบแทนอย่างมหาศาล’
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.