นี่คือเรื่องราวของสองหนุ่มสาวคู่รักที่ดำรงชีวิตอยู่ด้วยการ ‘ทานแต่ผลไม้’ พร้อมกับเคลมว่า การทำแบบนี้ทำให้พวกเขารู้สึกดี แถมไม่ต้องแปรงฟันอีกต่อไปอีกด้วย!?
Tina Stoklosa หญิงสาวจากเมือง Warsaw ประเทศโปแลนด์ วัย 39 ปี เป็นผู้เริ่มความคิดที่จะทานเฉพาะผลไม้นี้ เพราะเธอต้องการที่จะดีท็อกซ์ร่างกายของตัวเอง
เธอจึงชักชวนแฟนหนุ่มของตัวเอง Simon Beun วัย 26 ปี ให้หันมาทานผลไม้ด้วยกัน จนตอนนี้ผ่านมาแล้วกว่า 3 ปี พวกเขาไม่แตะอาหารอื่นเลยนอกจากผลไม้!!
พวกเขาเรียกการกินแบบนี้ว่า ‘Fruitarian’ พวกเขาเล่าว่าการทานแบบนี้ช่วยให้ร่างกายสามารถขับของเสียออกมาได้มากมาย แถมตอนนี้ฝ่ายแฟนสาวยังมีน้ำหนักลดลงไปราวๆ 31 กิโลกรัมเลยทีเดียว ตอนนี้น้ำหนักของเธออยู่ที่ 55 กิโลกรัม
นอกจากนี้ยังเคลมอีกว่าไม่จำเป็นต้องแปรงฟันแม้แต่น้อย เพราะไฟเบอร์ในผลไม้ ได้ทำหน้าที่แทนแปรงสีฟันไปแล้ว!? แถมยังบอกอีกว่ามันช่วยรักษาโรคเครียด โรคซึมเศร้า อาการเจ็บป่วยเรื้อรังและโรคมะเร็งได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่บริโภคอาหารที่ให้พลังงานพอๆ กับคนที่ทานอาหารปกติทั่วไปเลยทีเดียว โดยจะอยู่ที่ราวๆ 2,000-4,000 กิโลแคลอรีต่อวัน ประกอบไปด้วยกล้วยราวๆ 30 ลูก น้ำเปล่าและน้ำมะพร้าวเป็นต้น
Tina เล่าว่า “เดิมทีฉันเป็นคนอ้วนมาตลอด แม้จะหันมาไดเอทแล้วก็ตาม แต่ก็ยังอ้วนมากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกท้อแท้ใจ”
“จากการศึกษาเพิ่มเติมก็พบว่ามีผู้คนที่กินแต่ผลไม้อยู่ด้วย ฉันก็เลยคิดว่ามันน่าสนใจและลองหันมาทานอาหารแบบนี้ดู”
“หลังจากที่เริ่มไปได้ไม่นานก็พบว่ามันทำให้สุขภาพฉันดีขึ้นมากๆ มีพลังงานที่จะทำงาน หรือออกแรงได้อย่างไม่น่าเชื่อ”
“มันทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเบาขึ้น เหมือนกับกำลังลอยอยู่บนฟ้า ฉันรู้สึกว่าตัวเองรักทุกอย่างบนโลกใบนี้ มันดีต่อใจเหลือเกิน”
“ฉันก็เลยตัดสินใจที่จะไม่หันกลับไปกินอาหารแบบปกติธรรมดาอีกเลย จนตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้ว”
“แม้จะไม่ได้ออกกำลังกาย แต่น้ำหนักของฉันก็ไม่ขึ้นไปมากกว่าเดิม การทานผลไม้มันช่วยได้มากจริงๆ”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.