เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ชาวเมืองมิลวอกีคนหนึ่งพบลูกกระรอกสีเทา 5 ตัว อยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างแปลกประหลาด
พวกมันอยู่ในรังโดยไม่สามารถขยับไปไหนได้ เพราะหางของทั้ง 5 ตัวติดกัน ซึ่งเกิดจากหญ้ารวมทั้งพลาสติกที่แม่ของพวกมันใช้สร้างรังพันกันจนไม่สามารถเอาออกได้
ลูกกระรอกอายุประมาณ 5-6 สัปดาห์ ซึ่งอยู่ในวัยที่กำลังกระตือรือร้นที่จะออกไปสำรวจโลกภายนอก พวกมันต่างมีทิศทางที่จะไป แต่ก็ไปไม่ได้ ยิ่งพวกมันพยายามดึงหางตัวออกมาเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างความเจ็บปวดมากเท่านั้น
Scott Diehl ผู้อำนวยการของ Wisconsin Humane Society บอกว่า “พวกมันพยายามดึงตัวไปตามทิศทางของตัวเอง ขณะเดียวกัน แม่กระรอกก็พยายามช่วยลูกๆ อย่างเต็มที่เหมือนกัน”
เมื่อเห็นลูกกระรอกกำลังทุกข์ทรมาน หญิงสาวคนหนึ่งที่เห็นจึงตัดสินใจโทรแจ้งศูนย์ Wildlife Rehabilitation Center เพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อ Diehl หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของศูนย์ทราบเรื่อง เขาก็รีบไปที่นั่นทันที
จากนั้นลูกกระรอกทั้ง 5 ตัว ก็ถูกนำตัวไปที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า และโดนวางยาสลบ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะค่อยๆ แกะหางพวกมันออกจากกัน
เจ้าหน้าที่บอกว่า “ตอนแกะออก เราแทบจะไม่รู้ว่าหางไหนเป็นของตัวไหน เพราะมันพันกันยุ่งเหยิงไปหมด ยิ่งไปกว่านั้น เนื้อส่วนหางของแต่ละตัวก็ได้รับบาดเจ็บด้วย บางตัวแทบจะไม่มีเลือดไหลเวียนไปที่หางเลย”
หลังจากที่หางของพวกมันถูกทำให้แยกออกจากกันแล้ว หลายวันต่อมัน พวกมันก็ค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างมีความสุขในศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า
พวกมันแข็งแรงขึ้นทุกวัน และทุกครั้งที่เอาอาหารให้ ไม่ว่าจะมากเท่าไหร่ พวกมันจะกินจนหมดเกลี้ยงทุกครั้ง นั่นถือเป็นสัญญาณที่ดี ที่สำคัญ พวกมันดูมีความสุขที่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ
ในที่สุด ก็ถึงเวลาที่เจ้าหน้าที่จะทดสอบทักษะการปีนป่ายของพวกมัน เพื่อดูว่ากระรอกน้อยพร้อมที่จะกลับไปใช้ชีวิตในธรรมชาติหรือยัง
ปรากฏว่ากระรอกน้อยทำได้ดีทุกตัว พวกมันกระโดดไปมาอย่างคล่องแคล่ว บางตัวที่เสียขนไปมากกว่าพี่น้อง ตอนนี้ขนของมันก็เริ่มงอกขึ้นใหม่อย่างสวยงามแล้ว
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณการช่วยเหลือจากมนุษย์ นับตั้งแต่พลเมืองดีที่ไปเจอมัน และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า ทุกคือคนสำคัญที่ทำให้พี่น้องกระรอกได้รับอิสระอีกครั้ง
ตอนนี้ ลูกกระรอกจะอยู่ในศูนย์อีกประมาณ 2-3 วัน เพื่อเตรียมความพร้อม และเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย พวกมันก็จะได้กลับไปอยู่กับแม่อย่างมีความสุข
ที่มา thedodo
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.