หญิงเห็นเจ้าหมาอ้วนจนเดินแทบไม่ไหว จึงเอามันมาเลี้ยงแล้วช่วยคืนชีวิตหมาให้

Sadie Cox พบกับเจ้าหมา Suki ครั้งแรกเมื่อตอนที่มันกับเจ้าของเก่าออกมาเดินเล่นข้างนอก เธอเห็นว่าเจ้าหมาแทบจะเดินไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะน้ำหนักตัวของมันมากเกินไป

เธอเองก็เป็นคนรักหมา จึงไม่สามารถทนเห็นมันในสภาพแบบนั้นได้ เธอเลยไปคุยกับเจ้าของของมันทั้งที่ไม่รู้จักกันสักนิด

Cox ขอรับเลี้ยงมันต่อจากเขาเพราะว่าเขาดูแลมันได้ไม่ดีพอ เจ้าของเก่าของมันก็เลยมอบมันให้เธอไปดูแลต่อแต่โดยดี

 

 

เธออธิบายถึงความอ้วนของ Suki ว่า “เจ้าหมายกขาขึ้นเพื่อฉี่ไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะถ้ามันยกขาขึ้นแบบนั้นมันต้องล้มหงายตึงแน่”

จากนั้นเป็นต้นมาเธอก็ตั้งใจช่วยมันลดน้ำหนักแบบจริงจัง โดยมีเป้าหมายให้มันกลับมาผอมจนสามารถใช้ชีวิตแบบหมาที่มีความสุขได้ มันจะได้วิ่งเล่นและทำอย่างอื่นได้เต็มที่

 

 

ทว่าการช่วยมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้ว่ามันจะมาอยู่กับเธอแล้วเจ้าหมาก็แทบจะไม่ขยับไปไหน เพราะว่าการขยับตัวเป็นเรื่องลำบากสำหรับมันนั่นเอง

แม้แต่เวลากินข้าว มันก็ยังนอนกินเลย นอกจากนี้เจ้าของเก่าของมันคงจะไม่เล่นกับมันบ่อย เมื่อมีคนเข้าไปใกล้เจ้าหมามันก็เลยขู่เพราะมันไม่ชินกับการมีคนมาเล่นด้วย

 

 

อย่างไรก็ตาม Cox ก็มีความพยายามที่จะช่วย Suki มากเหมือนกัน เธอพามันไปหาสัตวแพทย์เป็นประจำเพื่อช่วยกันวางแผนการกินอาหารให้กับมัน

อีกอย่างเธอก็ช่วยมันออกกำลังกายด้วย โดยเริ่มจากการเดินวันละ 1 นาทีก่อน เพราะแค่เดินไม่ถึงนาทีมันก็หอบแฮ่กๆ แล้ว จากนั้นเธอก็ค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาการเดินให้กับมันเรื่อยๆ จนมันสามารถเดินได้นานขึ้น

 

วางแผนไดเอ็ทกับคุณหมอ จะได้ผอมๆ

 

Suki หัดเดินเป็นประจำ จนตอนนี้เริ่มเดินออกมานอกบ้านไหวแล้ว

 

แต่บางครั้งมันก็กลัวหิน ดอกไม้ หรือใบหญ้าเหมือนกัน เพราะตอนอยู่กับเจ้าของเก่าไม่เคยมาเดินเล่นสักที

 

ในที่สุดความพยายามอย่างต่อเนื่องของ Cox ก็เป็นผล หลังจากช่วยมันออกกำลังกายและคุมอาหารอยู่ 5 เดือน ตอนนี้น้ำหนักของ Suki ก็เริ่มเข้าที่เข้าทางสักที

 

 

ถึงแม้น้ำหนักตอนนี้ของมันจะยังไม่อยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่เธอก็จะพยายามต่อไปจนมันผอม เพราะแค่ได้เห็นมันตอนผอมลงมานิดเดียว เจ้าหมาก็ทำท่าทีมีความสุขมากแล้ว

ถ้าเจ้าหมาผอมลงอีกมันต้องร่าเริงมากกว่าเก่าแน่เลย เพราะมันจะสามารถวิ่งและเดินได้โดยไม่เหนื่อยเพราะต้องแบกร่างกายหนักๆ ตลอดเวลา เธอเองก็อยากเห็นมันร่าเริงกว่านี้เหมือนกัน

 

 

ที่มา: the dodo


Tags:

Comments

Leave a Reply