บางครั้งเรื่องเหนือธรรมชาติก็อาจเกิดขึ้นได้อย่างที่ไม่มีใครคาดคิด…
นี่คือเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ถูกฆาตกรรมเมื่อ 40 ปีก่อน ศพของเขาไม่สามารถหาเจอได้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ว่าในที่สุดศพของเขาก็ได้รับการค้นพบจากการมีต้น ‘มะเดื่อ’ งอกออกมาจากเมล็ดในท้อง!?
นาย Ahmet Hergune ถูกฆ่าในปี 1974 จากกรณีความขัดแย้งระหว่างชาวไซปรัสเชื้อชาติกรีก – ชาวไซปรัสเชื้อชาติตุรกี ที่ปะทุในเวลานั้น และศพของเขาก็หายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอยเป็นเวลาหลายทศวรรษ
แต่แล้วในปี 2011 ทีมนักวิจัยก็ค้นพบต้นมะเดื่อต้นหนึ่งที่เจริญเติบโตอยู่ในถ้ำ ซึ่งโดยปกติแล้วต้นไม้ชนิดนี้จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่แถบภูเขา นักวิจัยจึงตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นที่ถ้ำแห่งนี้
พวกเขาจึงขุดสำรวจลงไปในบริเวณที่ต้นไม้ต้นนั้น แล้วสิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็เกิดขึ้นเมื่อมีการค้นพบร่างของมนุษย์จำนวน 3 คนอยู่ในนั้น รวมถึงเศษเสื้อผ้าบางส่วนด้วย…
ทีมนักวิจัยได้นำเสื้อผ้าเหล่านั้นมาตรวจสอบ รวมถึงนำกระดูกมาตรวจ DNA แล้วก็พบว่า 1 ใน 3 ศพนั้นเป็นศพของนาย Ahmet เมื่อนำผลเลือดมาเปรียบเทียบกับ Munur Herguner น้องสาววัย 87 ปีของเขา
“พวกเราอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่มีคนอยู่ประมาณ 4,000 คน ครึ่งหนึ่งเป็นชนชาติกรีกอีกครึ่งหนึ่งเป็นชนชาติตุรกี ทว่าในปี 1974 ที่มีความขัดแย้งระหว่างสองฝ่ายเกิดขึ้น พี่ชายของฉันก็เลือกที่จะเข้าร่วมกับฝ่ายชนชาติตุรกี และตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายนปีนั้นเองก็ไม่มีใครพบเห็นเขาอีกเลย”
“พวกเราตามหาเขาเป็นเวลาหลายปีแต่ก็ไร้ประโยชน์” Munur กล่าว
จากหลักฐานทั้งหมดจึงสามารถเล่าเหตุการณ์ได้ว่า ในเวลานั้น Ahmet กับชายอีก 2 คน น่าจะเข้าไปหลบที่ถ้ำแห่งนี้ แต่ว่าพวกเขาทั้งหมดก็เสียชีวิตจาก ‘แรงระเบิด’ ที่อีกฝ่ายโยนเข้ามา
และแรงระเบิดนอกจากจะคร่าชีวิตของพวกเขาทั้ง 3 แล้ว ยังได้ทำให้เกิดช่องโหว่ภายในถ้ำส่งผลให้มีแสงลอดผ่านได้
ทั้งนี้ก็คาดว่านาย Ahmet น่าจะกินผลมะเดื่อเข้าไปไม่นานก่อนที่จะเสียชีวิต จึงทำให้เมล็ดที่อยู่ในท้องของเขาเติบโตจนเป็นเหตุให้ค้นพบศพของเขาในที่สุด
“เมล็ดมะเดื่อที่อยู่ในท้องพี่ชายฉันสามารถงอกกลายเป็นต้นไม้ได้จากแสงที่ส่องเข้าไปในถ้ำ ขอบคุณต้นมะเดื่อจริงๆ ที่ทำให้ฉันได้พบศพพี่ชายในที่สุด” Munur กล่าวปิดท้าย
ที่มา: mirror, thesun, hurriyetdailynews
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.