เป็นอีกเรื่องราวดีๆ กับความพยายามอย่างสุดความสามารถของแพทย์และพยาบาล เพื่อช่วยชีวิตเด็กวัย 8 ขวบ ให้รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด
Xiao Yu คือเด็กชายคนดังกล่าวที่เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ก่อนที่พ่อแม่ของเขาจะรีบส่งตัวไปโรงพยาบาล Changzhou Municipal Children’s Hospital เมืองฉางโจว ประเทศจีน
แพทย์บอกว่าอาการของเด็กนั้นทรุดตัวลงเรื่อยๆ จำเป็นที่จะต้องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในนครเซี่ยงไฮ้ เพราะว่าโรงพยาบาลในเมืองใหญ่นั้นจะมีอุปกรณ์ที่ครบกว่าและดีกว่านี้
Xiao Yu จะต้องได้รับการรักษาที่เรียกว่า ECMO ซึ่งเป็นขั้นตอนพิเศษสำหรับแทนที่การของหัวใจและปอดในเวลาที่อวัยวะอ่อนแอเกินไป
ในขณะที่ทีมแพทย์วางแผนทุกอย่างเอาไว้ รอส่งตัวเด็กไปรักษาในเมืองใหญ่ จู่ๆ อาการของเขาก็ทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงสัปดาห์ก่อน (17-23 ก.ย. 2018)
ความดันโลหิตลดลงอย่างรวดเร็ว หัวใจหยุดเต้นไปในทันที ซึ่งนั่นอาจเป็นผลมาจากการอักเสบของหัวใจ หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
ในวันที่ 20 กันยายน 2018 แพทย์และพยาบาลเกือบ 30 คนจึงจำเป็นที่จะต้องต่อแถวกันทำ CPR ให้กับเด็กชายคนนี้ พยายามกระตุ้นหัวใจของเด็กกว่า 30,000 ครั้ง ต่อเนื่องกันนานกว่า 5 ชั่วโมง
ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น
เจ้าหน้าที่ทุกคนพยายามอย่างหนักเพื่อต่อชีวิตเด็กชาย จนในที่สุดเลือดในร่างกายก็ได้ขึ้นไปไหลเวียนในสมอง ทำให้เขารอดตายมาได้ กลับมามีอาการคงที่ และได้รับการรักษา ECMO ตามที่วางแผนเอาไว้ให้
นายแพทย์ Li Yamin หนึ่งในคนที่ช่วยเด็กชายไว้ได้สำเร็จบอกว่า “พวกเราได้ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยชีวิตเด็กเอาไว้ เพราะมันคงเป็นเรื่องที่น่าละอายใจอย่างมาก หากเรายอมแพ้ไปเสียก่อน”
“เชื่อว่าเด็กคนนี้จะสามารถรักษาฟื้นฟูร่างกายกลับมาเป็นปกติได้ในเร็ววัน” เขากล่าว
การให้สัมภาษณ์ของหนึ่งในแพทย์ผู้ช่วยเหลือ
ความพยายามของเจ้าหน้าที่ทุกคน ได้ช่วยให้เด็กคนหนึ่งรอดตายมาได้ และกลายเป็นเรื่องราวสุดประทับใจที่ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาชื่นชม
“ฉันซาบซึ้งมากจริงๆ ขอบคุณหมอและพยาบาลผู้มีจิตใจอันงดงาม ขอให้พวกคุณได้สิ่งดีๆ กลับมา”
“เราต้องการแพทย์ที่มีความเป็นมืออาชีพแบบนี้ให้มากยิ่งขึ้น กระจายพลังแห่งความดีออกไปให้กว้างๆ”
การพยายามช่วยเหลือเด็กคนนี้
ปัจจุบัน Xiao Yu ได้เข้ารับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล Children’s Hospital of Fudan University นครเซี่ยงไฮ้ โดยเชื่อว่าอีกไม่นานเขาจะต้องกลับมาแข็งแรง สนุกสนานกับชีวิตอีกครั้ง
ที่มา: nextshark , dailymail , channelnewsasia
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.