เปิดเมนูพิสดาร ‘นิ้วมือลูซิเฟอร์’ สมญานาม ‘เห็ดทรัฟเฟิลแห่งท้องทะเล’ กับราคามหาโหด!!

ถ้าจะพูดถึงเมนู ‘เปิบพิสดาร’ เราๆ ก็คงจะนึกว่าเมนูอย่าง ยำไข่มดแดง กุ้งเต้น ลาบดิบอะไรต่างๆ นานา แต่ถ้าลองให้นึกถึงอาหารต่างประเทศที่เป็นเมนูแปลกๆ มันก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยใช่ไหมล่ะ

ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ วันนี้เราไปรู้จักกับอีกหนึ่งเมนูแปลกๆ แต่มีราคาแพงสุดๆ กันเลยดีกว่า โดยเมนูที่ #เหมียวจิวยี่ จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกันนั้นมีชื่อเรียกแสนน่ากลัวว่า ‘นิ้วมือลูซิเฟอร์’ (Lucifer’s Fingers)!!

โดยเจ้านิ้วมือลูซิเฟอร์ที่ว่านี้จัดได้ว่าเป็นอาหารอันโอชะของประเทศแถบๆ โปรตุเกสหรือสเปน ซึ่งบางร้านนั้นมันมีราคาต่อจานสูงถึง 115 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,700 บาท)  แถมมันยังมีรสชาติอร่อยจนถึงขั้นที่บางคนเปรียบว่าเมนูนี้นี่แหละคือ ‘เห็ดทรัฟเฟิลแห่งท้องทะเล’ เลยทีเดียว

ก่อนอื่นนั้นต้องขออธิบายก่อนว่า เมนูนี้มันคือตัว ‘เพรียงคอห่าน’ สัตว์ลึกลับแห่งท้องทะเล และก็เพราะความหายากและวิธีการจับอันเสี่ยงตายของผู้ล่าตัวมันนี้เอง จึงทำให้มันมีราคาแพงได้ถึงเพียงนี้

โดยเจ้าเพรียงที่ว่านี้จะไม่สามารถนำมาเลี้ยงเพาะพันธุ์ได้ มันจะอยู่ตามท่อนไม้ที่ลอยอยู่ในทะเลหรือโขดหินที่อยู่ในบริเวณรอยต่อระหว่างน้ำขึ้นกับน้ำลง (Intertidal Zone) เท่านั้น ซึ่งในโซนที่ว่านี้มีความอันตรายเป็นอย่างมากจากคลื่นที่แรง จนเคยทำให้มีผู้ล่าเสียชีวิตหรือแข้งขาหักมาแล้วก็มีมาไม่น้อย

ไปดูวิธีการจับมันซะก่อน

“อย่าหันหลังกลับมามองพระเจ้า ถ้าหากคุณดำลงไปหา Lucifer’s fingers”

“ถ้าคุณแหวกว่ายไปหามันล่ะก็แผ่นหลังของคุณจะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของท้องทะเล บางทีคุณอาจจะได้รับบาดเจ็บหรือถูกทะเลเอาชีวิตไปเลย อย่างที่หลายๆ คนก่อนหน้านี้เคยเป็นมาก่อน” 

“บางคนอาจโชคดีแค่แขนขาหัก แต่กลับบางคนพวกเขาหมดสติและจมน้ำหายไปเลย” João Rosário นักดำน้ำเชิงพาณิชย์ให้สัมภาษณ์กับสื่อ BBC

ในตอนนี้ที่ประเทศโปรตุเกสมีนักดำน้ำที่มีใบอนุญาตให้ล่าเจ้าเพรียงทะเล แค่ 80 คนเท่านั้น (เพราะถือว่าเป็นสัตว์เฉพาะถิ่นและมีความอันตรายในการล่า) และนอกจากนี้ยังมีข้อบังคับว่าแต่ละคนสามารถล่ามันได้สูงสุดวันละ 15 กิโลกรัมด้วย

ราคาขายของมันต่อกิโลก็จะตกอยู่ที่ 30 – 60 ยูโร (ประมาณ 1,125 – 2,250 บาท) ซึ่งบางคนเรียกว่าเจ้าตัวนี้แหละคือ ATM ในทะเล

ส่วนในเรื่องของวิธีการปรุงของมันนั้น ส่วนมากจะใช้วิธีที่เราเรียกกันว่า ‘ลวกสะดุ้ง’ นั่นคือการนำมันไปต้มในน้ำเดือดใส่เกลือเป็นเวลาเพียงแค่แป๊บเดียว (น้อยกว่า 1 นาที) แล้วก็เอาไปแช่น้ำแข็งต่อ ทั้งนี้ก็เพื่อความสดที่สุดของมันนั่นเอง

เอาเป็นว่าถ้าใครมีโอกาสได้ลองชิมเมนูแปลกๆ นี้ ก็ลองมาบอกกันหน่อยละกันว่าเป็นอย่างไรแต่ดูจากหน้าตาแล้วมันคงจะอร่อยพิลึกๆ สักหน่อยแหละ…

ที่มา: odditycentral, bbc