แมวจรจัดกระโดดขึ้นนั่งบนตักหญิงสาว ก่อนจะทำให้เธอตกเป็นทาสตลอดชีวิต

เมื่อ Carri-Anne Jane ย้ายไปอยู่ที่ดูไบเพื่อฝึกงานในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2017 เธอไม่คิดเลยว่าจะกลับมาพร้อมสัมภาระชิ้นพิเศษที่สำคัญต่อใจมากๆ

Jane ไปถึงดูไบในเดือนตุลาคม หลังจากนั้นเธอก็สังเกตเห็นแมวตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง ซุ่มอยู่บริเวณทางทางเข้าอพาร์ตเมนต์ของเธอ

 

 

เธอคิดว่าแมวตัวนี้กำลังหาอาหาร เธอจึงนั่งลงให้อาหารมัน ก่อนจะได้รับการตอบสนองจากแมวในแบบที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน

เจ้าเหมียวตัวนั้นมีขนสีขาวและสีน้ำตาล มันปฏิเสธอาหารที่หญิงสาวยื่นให้ แต่มันเลือกที่จะเรียกร้องความสนใจจากเธอแทน

Jane เล่าว่า “ฉันนั่งลงและเอาอาหารให้มัน แต่มันกลับกระโดดขึ้นมาบนตักของฉัน ถูหัวไปมาบนนั้น และเริ่มทำเสียงเพอร์”

 

 

Jane กับแมวตัวนี้กลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็วและอยู่ในชีวิตประจำวันของกันและกันตั้งแต่วันนั้น ทุกครั้งที่หญิงสาวกลับจากที่ทำงาน เจ้าเหมียวจะวิ่งไปต้อนรับพร้อมเสียงเมี๊ยวๆ เสมอ เธอตั้งชื่อให้มันว่า Eleven 

อยู่มาวันหนึ่ง รูมเมทของ Jane ชี้ให้ดูว่าแมวตัวนั้นมีขนรูปหัวใจอยู่ที่ด้านข้างของมัน ยิ่งตอนที่มันกอดหญิงสาว จะเห็นได้ชัดมากขึ้น

 

 

หญิงสาวทึ่งมาก เพราะรูปลักษณ์ภายนอกสะท้อนสิ่งที่อยู่ในใจมัน เธอจึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อให้มันอย่างรวดเร็ว “มันเป็นแมวที่น่ารักมากๆ และมันมีหัวใจที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่แมวจะมีได้” หญิงสาวบอก

“ตอนนี้ฉันเปลี่ยนชื่อให้มันเป็น Brave“

ต่อมาในเดือนธันวาคม Jane รู้ว่าไม่สามารถทิ้ง Brave ไว้ที่นี่ได้ เธอจึงพามันไปหาสัตวแพทย์ เพื่อให้แน่ใจว่ามันมีสุขภาพดีพอที่เธอจะพามันกลับไปยังแอฟริกาใต้ได้

 

 

อย่างไรก็ตามการขนส่งแมวไปยังบ้านของเธอใน Cape Town นั้น มันยากกว่าที่ Jane คิดเอาไว้ เพราะค่าเดินทางเป็นแสน ซึ่งแพงเกินงบที่เธอมี และเธอก็ไม่อยากทิ้งมันไว้ที่นี่

Jane จึงเริ่มหาข้อมูลว่าต้องใช้อะไรบ้างในการขนส่ง Brave จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไปยังแอฟริกาใต้ โดยไม่ต้องผ่านหน่วยงานขนส่งสัตว์

นอกจากนี้เธอยังหาทางที่จะระดมทุนสำหรับค่าธรรมเนียมต่างๆ ด้วย ในที่สุดเธอก็เปิดระดมทุนในอินสตาแกรมและ crowdfunding campaign

 

 

กลางเดือนมกราคม ถึงเวลาที่ Brave ต้องฉีดวัคซีนตามกำหนด Ray Leathern สามีของ Jane จึงตัดสินใจขายจักรยานเสือภูเขาของเขา เพื่อให้เป้าหมายของพวกเขาประสบความสำเร็จ

Jane บอกว่า “เรายังคงเดินหน้าหาเงินสำหรับค่าเดินทางของ Brave จนกระทั่งวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2018 ซึ่งยอดเงินบริจาคอยู่ที่ประมาณ 45,000 บาท”

แต่ในที่สุด เจ้าเหมียวก็สามารถกลับบ้านได้ในวันที่ 1 มีนาคม และหลังจากที่เดินทางยาวนานถึง 16 ชั่วโมง Brave ก็มาถึงบ้านของ Jane

 

 

ทั้ง Jane และสามีตื่นเต้นมากๆ ที่ Brave เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว พวกเขาปล่อยให้มันเรียนรู้และปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่แบบค่อยเป็นค่อยไป

Jane บอกว่าเจ้าเหมียวต้องใช้เวลาถึง 2 เดือนในการปรับตัวกับชีวิตใหม่ในฐานะสัตว์เลี้ยง และทำความรู้จักกับเพื่อนแมวอีกตัวหนึ่ง

 

 

กระทั่งผ่านไป 7 เดือน Brave ก็สามารถปรับตัวกับชีวิตใหม่ได้ ความน่ารักและความขี้เล่นของมัน ทำให้พ่อกับแม่ประหลาดใจมาก เพราะก่อนหน้านี้มันไม่ได้เป็นแบบนี้เลย

เจ้าของบอกว่ามันมีพลังที่ไร้ขีดจำกัด หัวใจของมันเต็มไปด้วยความรัก มันชอบขโมยอาหารจากจานพ่อแม่ แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ทำให้พ่อแม่รักมันมากไม่เคยเปลี่ยน

 

 

สำหรับ Jane แล้ว การช่วย Brave ให้มาเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเธอในแอฟริกาใต้นั้น แม้จะยากลำบากและใช้เวลานาน แต่มันก็คุ้มค่ามาก

เธอบอกว่าจะมอบชีวิตที่ดีที่สุดให้มันเท่าที่จะทำได้ พวกเขาพร้อมจะปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมตามที่มันต้องการ และมอบความรัก ความสนใจให้มันอย่างไม่มีขีดจำกัด เพื่อตอบแทนที่มันเข้ามาเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์

 

 

ที่มา thedodo