ตั้งแต่เมื่อหลายพันปีก่อน การที่จู่ๆ เห็ดจะขึ้นเป็นวงแหวนในป่ามักจะถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของบางสิ่งบางอย่างจากต่างโลก และกลายเป็นที่มาของเรื่องเล่าเรียกกันว่า “วงแหวนภูต” “วงแหวนเอลฟ์” หรือ “วงแหวนนางฟ้า”
การพบวงแหวนเหล่านี้จะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความเชื่อของคนในพื้นที่ บางครั้งเรื่องเล่าก็บอกว่าวงแหวนนางฟ้าจะนำมาซึ่งโชคดี ในขณะที่ในอีกหลายๆ เรื่องเล่าวงแหวนนางฟ้าก็จะนำมาซึ่งสิ่งชั่วร้าย
วงแหวนเหล่านี้บางครั้งก็ถูกมองว่าเป็นทางผ่านไปยังดินแดนของชาวเอลฟ์ ดินแดนของนางฟ้า หรือแม้กระทั่งอีกโลกหนึ่ง
ในฝรั่งเศสและเยอรมนี วงแหวนเหล่านี้มักจะถูกมองว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากเวทมนตร์ชั่วร้าย อันเป็นผลงานจากพิธีกรรมของแม่มด แต่ในอังกฤษ สแกนดิเนเวียน และเซลติก วงแหวนนี้กลับมักถูกมองว่าเกิดจากการเต้นรำของเหล่าภูติแทน
แต่แม้ว่าแนวคิดเรื่องวงแหวนนางฟ้าแต่แตกต่างกันไปในแต่ละที่ โดยมากแล้วในสมัยก่อนมักจะมีคำสอนที่ห้ามไม่ให้เข้าไปใกล้วงแหวนเหล่านี้อยู่เสมอๆ
ในตำนานหลายๆ เรื่องการเข้าไปในวงแหวนจะทำให้ผู้ที่เข้าไปตายตั้งแต่ยังเด็ก กลายเป็นคนที่ไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไป ถูกขังอยู่ในนั้นตลอดกาล สูญเสียดวงตา หรือแม้กระทั่งโดนบังคับให้เต้นไปจนตาย
โชคดีที่ในปัจจุบันเราทราบกันแล้วว่าเหตุการณ์วงแหวนนางฟ้านั้นเกิดขึ้นด้วยเหตุผลใด กล่าวคือเห็ดบางชนิด (อย่างเห็ดแชมปิญอง เห็ดหัวกรวด) จะมีการกระจายเส้นใยเห็ดออกไปในระยะทางเท่าๆ กันรอบทิศ
นั่นทำให้หากกลุ่มของเส้นใยสมบูรณ์มันจะเกิดเป็นดอกเห็ดซึ่งล้อมวงกันเป็นวงกลมแบบพอดิบพอดีนั่นเอง
ส่วนเรื่องเล่าที่เกี่ยวกับวงแหวนเหล่านี้อาจจะเกิดขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ เด็กๆ ในสมัยนั้นเก็บเห็ดในวงแหวนไปทานก็เป็นได้ เพราะในบรรดาเห็ดที่มีการกระจายเส้นใยในรูปแบบนี้ มีอยู่หลายชนิดที่มีพิษกับมนุษย์นั่นเอง
ที่มา ancient-origins, britannica
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.