เคยได้ยินเรื่องราวของเพชรต้องสาปไหม มันเป็นเพชรขนาดใหญ่หนักราวๆ 45 กะรัตที่มีสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งถูกเก็บไว้ที่ในพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาสมิธโซเนียน ที่สหรัฐอเมริกา และว่ากันว่าจะนำพาเรื่องร้ายๆ มาให้กับเจ้าของ
ไม่มีใครรู้ว่าเพชรเม็ดนี้ถูกค้นพบเมื่อใด แต่ว่ากันว่าเพชรเม็ดดังกล่าวถูก พ่อค้าชาวฝรั่งเศส Jean Baptiste Tavernier นำมาขายให้กับพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ในช่วงศตวรรษที่ 17
เพชรเม็ดนี้ตกทอดมาถึงมือของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และแมรี่ อังตัวเนตต์ในเวลาต่อมา และในช่วงนี้เองที่ตำนานเพชรต้องสาปเริ่มต้นขึ้น
พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และแมรี่ อังตัวเนตต์ถูกประหารชีวิตในการปฏิวัติฝรั่งเศสหลังจากนั้น ส่วนเพชรเม็ดนี้ได้สูญหายไปอย่างลึกลับ เป็นไปได้ว่าจะถูกขโมยไปพร้อมๆ กับเครื่องประดับอื่นๆ ในระหว่างความวุ่นวายของการปฏิวัติ
อย่างไรก็ตามในปี 1830 ได้มีบันทึกว่ามีคนซื้อเพชรเม็ดนี้เอาไว้อีกครั้ง โดยชายคนดังกล่าวมีชื่อว่าเฮนรี่ ฟิลิป โฮป และทำให้เพชรสีน้ำเงินเม็ดดังกล่าวได้รับชื่อ “เพชรโฮป” ที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน
ภาพของเฮนรี่ ฟิลิป โฮป
ดูเหมือนว่าเพชรเม็ดนี้จะมีรูปร่างเปลี่ยนไปจากในอดีตพอสมควร ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะมาจากการเจียระไนใหม่ โดยช่างเจียระไนชาวดัตช์ แต่แม้รูปร่างจะเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้คำสาปของเพชรเม็ดนี้ลดน้อยลงไปเลย
เพราะหลังจากที่เพชรเม็ดนี้ตกทอดไปในตระกูลโฮป ได้ไม่นานคนในตระกูลก็เริ่มพบกับโชคร้ายทันที อย่างฟรานซิส โฮปผู้ได้รับเพชรนี้เป็นของขวัญในวันเกิดครบรอบ 21 ปีก็ต้องล้มละลายไม่นานหลังจากนั้น
แถมว่ากันว่าแม้แต่ช่างเจียระไนชาวดัตช์ ผู้ทำการเจียระไนเพชรโฮปในอดีตเองก็ต้องมาจบชีวิตลงด้วยมือของลูกชายตัวเองเช่นกัน
หลังจากที่ฟรานซิส โฮปล้มละลายเขาก็ขายเพชรโฮปออกไป ทำให้เพชรเม็ดนี้มีการเปลี่ยนมืออยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครเลยที่จะถือมันไว้ได้นาน บางคนก็เป็นบ้าจนฆ่าตัวตาย ในขณะที่บางคนก็ถูกสังหารหลังจากที่ถือครองเพชรนี้ไว้
เอวาลีน วอลซ์ แมคลีน หนึ่งในผู้ถือครองเพชรโฮป
ลูกชายของเธอถูกรถชนเสียชีวิต ส่วนสามีก็เป็นบ้า และจบชีวิตลงในโรงพยาบาลประสาท
ชายคนสุดท้ายที่ได้ทำการถือครองเพชรโฮปเอาไว้คือแฮรี่ วินสตันพ่อค้าเพชรชาวนิวยอร์ก ผู้ที่ซื้อเพชรโฮปเอาไว้ และมอบมันให้กับพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาสมิธโซเนียน และเป็นที่นี่เองที่คำสาปของเพชรโฮปดูเหมือนว่าจะยุติลง
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่าคำสาปได้จบลงแล้ว ก็ยังมีคนบางส่วนที่เชื่อว่าสักวันคำสาปของเพชรโฮปจะกลับมาอยู่เช่นกัน เหมือนกับสายลมสงบชั่วคราวก่อนพายุใหญ่ในอนาคตนั่นเอง
ที่มา historydaily, mentalfloss, Smithsonian
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.