หลังจากที่กลายเป็นประเด็นโด่งดังไปทั่วโลก กับกรณีของ ‘นักข่าวในซาอุดีอาระเบียหายตัวไป’ ก่อนจะพบหลักฐานที่บ่งบอกว่าเขากลายเป็นศพถูกชำแหละเป็นชิ้นๆ ไปแล้ว
นาย Jamal Khashoggi นักข่าวอิสระชาวซาอุดีอาระเบีย ผู้ตกเป็นเหยื่อถูกสังหารโหดหลังเข้าไปในอาคารสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย ในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี จากนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
นาย Jamal Khashoggi
หลังจากนั้นก็มีการปล่อยหลักฐานชิ้นสำคัญคือคลิปเสียงที่เขาแอบกดอัดเอาไว้ในนาฬิกาแอปเปิลวอทช์ ขณะที่ตัวเองถูกสอบสวน ทรมานร่างกาย และถูกสังหารชำแหละร่างเป็นชิ้นๆ ก่อนที่ไฟล์เสียงนั้นจะถูกส่งไปยังเครื่องไอโฟนของเขาที่ฝากไว้กับคู่หมั้น
ทางด้านรัฐบาลตุรกีได้เปิดเผยว่าขณะนี้กำลังทำการสืบสวนถึงที่มาของเหตุดังกล่าวอยู่ ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร? มีใครอยู่เบื้องหลังกันแน่? ทำให้ทั่วโลกต่างจับตารอแถลงการณ์อย่างใกล้ชิด
เบื้องต้นพบว่ามีผู้ก่อเหตุมากกว่า 15 ราย ถูกส่งมาจากซาอุดีอาระเบีย ซึ่งปมสังหารคาดว่าเกิดจากการที่นาย Jamal มักจะวิจารณ์มกุฎราชกุมาร Mohammed bin Salman อยู่บ่อยครั้ง
ก่อนหน้านั้น #เหมียวหง่าว ได้ค้นเจอข้อมูลที่น่าสนใจ เป็นการสรุปไทม์ไลน์ก่อนเกิดเหตุสังหารโหดนี้มาให้เพื่อนที่กำลังติดตามข่าวนี้ได้ลองอ่านกันดูครับ
วันที่ 28 กันยายน นาย Jamal เดินทางไปยังกงสุลซาอุฯ ที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เพื่อรวบรวมเอกสารที่จะใช้ในการแต่งงานกับคู่หมั้นชาวตุรกีของเขา ซึ่งก็คือ Hatice Cengiz แต่ถูกสั่งให้กลับมาเอาอีกทีในวันที่ 2 ตุลาคม
Hatice Cengiz คู่หมั้นของนาย Jamal
วันที่ 2 ตุลาคม Hatice ไปส่งนาย Jamal ที่หน้ากงสุล ซึ่งเขาก็ได้ฝากโทรศัพท์เอาไว้ที่เธอ 2 เครื่องด้วยกัน พร้อมกับกำชับเอาไว้ว่าให้ไปขอความช่วยเหลือหากเขาไม่กลับมา
นาย Jamal เข้าไปในกงสุลเวลา 13.14 น. ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศตุรกี จากนั้นก็ไม่กลับออกมาอีกเลย Hatice จึงตัดสินใจโทรแจ้งตำรวจ
จากรายงานระบุว่าในวันนี้ เจ้าหน้าที่ชาวตุรกีที่ทำงานในกงสุล ถูกสั่งให้หยุดงานอยู่ที่บ้าน
นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่าในช่วงเช้าของวันนี้ พบเครื่องบินส่วนตัวเดินทางจากกรุงริยาดมายังอิสตันบูล พร้อมกับเจ้าหน้าที่ชาวซาอุฯ เดินทางมาด้วยถึง 9 คน ก่อนที่จะโดยสารรถ 6 คันมุ่งตรงมายังกงสุล
ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่นาย Jamal สวมชุดสูทสีดำเดินเข้าไปในกงสุล เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม
วันที่ 3 ตุลาคม เป็นวันที่ควรจะเป็นวันแต่งงานของ Jamal และ Hatice ซึ่ง ณ ตอนนี้ยังคงไม่ทราบถึงชะตากรรมของฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าว ว่าหายตัวไปไหน
ทางด้านเจ้าหน้าที่ก็เริ่มทำการสืบสวนเพื่อหาตัวนาย Jamal ที่หายไป ได้มีการติดต่อไปยังมกุฎราชกุมาร Mohammed bin Salman เพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
มกุฎราชกุมาร Mohammed bin Salman
วันที่ 4 ตุลาคม กระทรวงต่างประเทศของตุรกีได้เชิญทูตจากซาอุฯ เพื่อสอบถามข้อมูลการหายตัวไปของนาย Jamal แต่เขาบอกว่าไม่รู้เรื่อง
ทางด้านรัฐบาลของซาอุฯ ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการถึงการหายตัวไปของนาย Jamal ระบุว่าเขาเดินออกจากกงสุลไปโดยใช้ประตูหลัง และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
วันที่ 7 ตุลาคม สำนักข่าว Reuters รายงานว่านาย Jamal ถูกสังหารในกงสุล ขณะเดียวกันรัฐบาลของซาอุฯ ก็ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง
วันที่ 8 ตุลาคม นักข่าวของ Axios นาย Jonathan Swan เปิดเผยว่ารัฐบาลของซาอุฯ คือผู้อยู่เบื้องหลังการหายตัวไปของนาย Jamal
ซึ่งทางด้านเจ้าชาย Khalid bin Salman ก็ออกมาปฏิเสธว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง
ในวันเดียวกันนี้มีเจ้าหน้าที่ชาวตุรกีให้ข้อมูลกับสำนักข่าว Reuters และ Washington Post ว่านาย Jamal ถูกสังหารในกงสุล แต่ยังไม่ทราบถึงพยานหลักฐาน หรือข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม
เจ้าชาย Khalid bin Salman
วันที่ 9 ตุลาคม ในการแถลงข่าวที่บูดาเปส นาย Recep Tayyip Erdogan ประธานาธิบดีของตุรกีขอดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ที่ทางซาอุฯ อ้างว่าบันทึกเหตุการณ์ตอนที่นาย Jamal เดินออกจากกงสุลไป
จากนั้นก็มีรายงานความคืบหน้าจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจของตุรกี โดยมุ่งเป้าไปที่รถเบนซ์คันสีดำมาจอดอยู่ที่ด้านหลังกงสุล คาดว่านาย Jamal น่าจะถูกพาตัวขึ้นรถคันนั้นออกไป ขณะเดียวกันก็มีรถอีกหลายคันขับตามออกไปด้วย
วันที่ 10 ตุลาคม ภาพจากกล้องวงจรปิดในกงสุลในช่วงเวลาที่เกิดเหตุได้หายไป เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่ามันน่าจะถูกลบออกไปโดยฝีมือของใครบางคน
เจ้าหน้าที่พบว่าในวันเกิดเหตุการหายตัวไปของนาย Jamal มีเครื่องบินส่วนตัวบินตรงจากกรุงริยาด มายังอิสตันบูล จากรายงานตอนแรกว่ามี 9 คน แต่จริงๆ แล้วมีถึง 15 คนด้วยกัน
วันที่ 12 ตุลาคม ท่ามกลางการรายงานของสื่อใหญ่ที่ฟันธงไปแล้วว่านาย Jamal ถูกสังหารในกงสุล ทางการของซาอุฯ ก็ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่าไม่เป็นความจริง
วันที่ 14 ตุลาคม หลายประเทศเริ่มกดดันซาอุดีอาระเบียให้เปิดเผยความจริงออกมา
วันที่ 15 ตุลาคม มีหลายประเทศเช่นซูดาน คูเวต และโคโมรอส ให้การสนุบสนุนกับซาอุดีอาระเบีย ที่ให้การว่า ‘สำนักข่าวต่างๆ นั้นออกจะ ‘รู้มาก’ กับการหายตัวไปของนาย Jamal’
อย่างไรก็ตามสำนักข่าว Al-Jazeera ได้เปิดเผยคลิปกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นถึงพนักงานทำความสะอาดขนอะไรบางอย่างเข้าไปในกงสุล
เจ้าหน้าที่ของตุรกีเดินทางมาถึงกงสุลในช่วงค่ำของวันที่ 15 (หลังจากพนักงานทำความสะอาดขนอะไรบางอย่างเข้าไปในกงสุล)
ภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด
วันที่ 16 ตุลาคม สำนักข่าว CNN รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตุรกีที่ไม่เปิดเผยชื่อ ได้ให้ข้อมูลว่านาย Jamal ถูกฆ่าหั่นศพภายในกงสุลของซาอุฯ ในเมืองอิสตันบูล
นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่าเจ้าหน้าที่ของตุรกีได้ทำการค้นกงสุลเป็นเวลานานถึง 9 ชั่วโมง และพบว่ามีรอยทาสีใหม่ในสถานกงสุลเต็มไปหมด ซึ่งอาจจะเป็นการกลบเกลื่อนอะไรบางอย่างก็เป็นได้
แผนผังของกงสุลซาอุดีอาระเบีย ในเมืองอิสตันบูล กับจุดสำคัญต่างๆ
วันที่ 17 ตุลาคม CNN ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากการพูดคุยกับแหล่งข่าวชาวตุรกี พบว่าก่อนที่นาย Jamal จะถูกสังหาร เขาถูกเจ้าหน้าที่ข่าวกรองระดับสูงของซาอุฯ สอบปากคำ และทรมานร่างกายอีกด้วย
นอกจากนี้สำนักข่าว New York Times ยังรายงานถึงการตายของนาย Jamal อีกว่าเขาถูกตัดนิ้วออกไปหลายนิ้ว ก่อนที่จะถูกตัดหัว และแยกชิ้นส่วนร่างกายออกเป็นชิ้นๆ
ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้มาจาก ‘ไฟล์เสียง’ ที่ถูกอัดเอาไว้ และไฟล์เสียงดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยเจ้าหน้าที่ระกับสูงของตุรกี
ส่วนข้อสรุปคดีดังกล่าวจะเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้กันแน่ ก็คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไปแล้วล่ะครับ
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.