ในวันที่ 19 ตุลาคม 2018 ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า David Lawrence ได้ทำการแชร์คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงการ “เหยียดผิว” อย่างชัดเจน และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก
ภายในคลิปเผยให้เห็นว่าชายชราผิวขาวคนหนึ่งตะโกนโวยวาย ด่าเหยียดคนผิวสีที่นั่งข้างๆ กับเขาบนเครื่องบินของสายการบิน Ryanair ในช่วงก่อนที่เครื่องจะออก กลายเป็นจุดสนใจของผู้โดยสารคนอื่นๆ
ชายผิวขาว ผู้โดยสารที่แสดงออกถึงการเหยียดผิวอย่างชัดเจน
David เล่าว่า ชายชราคนนั้นใช้คำพูดที่รุนแรงเป็นอย่างมาก ตะโกนออกมาในตอนแรกว่า “หลบไป มึงขวางทางกุอยู่ เอาจริงๆ กุไม่อยากนั่งกับมึงหรอก”
คำพูดนั้นทำให้ลูกสาวของหญิงชราผิวสีต้องรีบวิ่งเข้ามาดูว่าใครมาด่าแม่ของเธอ โดยเธอก็พูดตอบกลับชายคนนั้นไปว่า “คุณพูดกับใคร? อย่าตะโกนใส่เธอ นั่นน่ะแม่ฉันนะ เธออายุมากจนถึงกับต้องนั่งวีลแชร์แล้ว”
ถึงอย่างนั้นชายผิวขาวก็ได้พูดออกมาว่า “แล้วไง กุไม่สน”
เที่ยวบินนี้มุ่งหน้าตรงไปยังประเทศอังกฤษ แต่ไม่มีการรายงานว่าชายคนดังกล่าวนั้นเป็นคนชาติใด
การถกเถียงกันไปมาทำให้พนักงานบนเครื่องบินต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ซึ่งชายชราก็ยังคงต่อว่าด่าคนผิวสีต่อไป และบอกให้เธอย้ายไปนั่งที่อื่นได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเขาจะเป็นคนจับเธอย้ายที่ซะเอง
คำพูดหนึ่งที่รุนแรงมากๆ คือในตอนที่หญิงชราผิวสีหันไปพูดบางอย่างกับเขาช้าๆ ชายคนนั้นก็ตอกหน้ากลับมาว่า “อย่ามาพูดกับกุด้วยภาษาต่างชาติงี่เง่าของแกนะ อีวัวโง่หน้าตาน่าเกลียด”
คำพูดของเขาทำให้ผู้โดยสารคนอื่นๆ ถึงกับตะโกนใส่เขาว่า “ไล่มันลงไป ไล่คนแบบนี้ลงไปจากเครื่องได้แล้ว”
คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม พนักงานบนเครื่องกลับเลือกที่จะเสนอให้หญิงชราย้ายที่ไปนั่งข้างๆ ลูกสาว จากนั้นก็ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับหลายๆ คนเป็นอย่างมาก
เมื่อคลิปนี้ถูกเผยแพร่และมีคนแชร์ออกไปมากกว่า 50,000 ครั้ง ในวันที่ 21 ตุลาคม 2018 ทาง Ryanair ก็ได้ออกมาอธิบายว่า “เรารับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และได้รายงานเรื่องนี้ไปกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อย”
โพสต์ของทางสายการบิน
ถึงอย่างนั้น ชาวเน็ตจำนวนมากก็ได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงการจัดการปัญหาที่ไม่เหมาะสมของลูกเรือสายการบินสัญชาติไอริชนี้ แทบทุกคนมองว่าควรจะไล่ชายคนนั้นลงไปหรือไม่ก็แจ้งตำรวจในทันที มากกว่าปล่อยให้ขึ้นบินตามปกติ
พวกเขามองว่าคงรู้สึกไม่ปลอดภัย หากลูกเรือจัดการปัญหากันอย่างนี้
เห็นชัดเลยว่าหญิงชราผิวสีนั้นตกเป็นเหยื่อของสิ่งที่เกิดขึ้น แต่กลับไม่มีการจัดการใดๆ กับชายผิวขาวคนนั้นในทันที
หลายๆ คนเลือกที่จะไม่นั่งสายการบินนี้อีกเลย
ยอมจ่ายสองเท่าไปนั่งสายการบินอื่น ยังอาจจะดีซะกว่า
ยังคงไม่มีการรายงานว่าชายชราคนดังกล่าวนั้นถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ คือเขาไม่สามารถขึ้นนั่งสายการบินนี้ได้อีกแล้ว
ที่มา: businessinsider , David Lawrence , washingtonpost , nzherald
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.