ในวันที่ 5 สิงหาคม 1948 ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของรัฐอินเดียน่า สหรัฐอเมริกา ได้มีภาพของหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังประกาศขายลูกๆ ถูกแพร่ออกไปต่อสายตาของสาธารณชน สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเป็นอย่างมาก
หากไม่รู้ความจริง ไม่ว่าใครเห็นภาพถ่ายนี้ก็คงคิดว่านี่เป็นภาพที่มีการจัดฉากขึ้นมาแน่ๆ แต่ปัญหาคือไม่ใช่แค่ภาพดังกล่าวจะเป็นของจริงเท่านั้น แต่เด็กๆ ที่เห็นในภาพทุกคน (บวกกับที่อยู่ในท้องแม่ด้วย) ก็โดนขายออกไปจริงๆ ด้วย
นี่เป็นภาพที่มีการถ่ายไว้ที่เมืองชิคาโก และมีคำบรรยายในต้นฉบับว่า คนในภาพคือภรรยาของอดีตคนขับรถขนถ่านที่ถูกไล่ออกจากงาน และถูกไล่ออกจากอพาร์ตเมนต์ เธอจึงตัดสินใจขายเด็กๆ ในบ้านของตัวเอง
เด็กที่ถูกขายออกไปนั้นมีชื่อว่า RaeAnn Mills, Milton, David, Lana และ Sue Ellen โดยสองคนแรกถูกขายออกไปในปี 1950 และต้องกลายเป็นทาสของพ่อแม่คนใหม่ไป
RaeAnn Mills (ซ้าย) กับ Milton (ขวา) หลังจากที่ถูกขายออกไป
ในเวลานั้นพวกเขายังไม่รู้เลยว่าจะต้องพบกับอะไรบ้าง
จากคำบอกเล่าของ RaeAnn Mills เธอต้องถูกทำร้ายร่างกายและบังคับใช้แรงงานเป็นเวลานาน ส่วน Milton เองก็เคยถูกเรียกว่า “เจ้าทาส” อยู่บ่อยๆ ด้วย
RaeAnn ในตอนที่อายุได้ 17 ปี ถูกลักพาตัวและข่มขืน เธอท้องและถูกส่งไปยังสถานสงเคราะห์สำหรับเด็กสาวที่ตั้งครรภ์ ส่วน Milton ที่ถูกทารุณกรรมมานานก็ต้องถูกส่งเข้าโรงพยาบาลประสาทหลังจากที่โตขึ้น
David McDaniel น้องชายคนสุดท้อง
โชคดีที่บ้านที่ David ลูกชายคนเล็กถูกส่งไปไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น เพราะแม้ที่บ้านใหม่จะเคร่งไปบ้างแต่ก็รักเขาดี อย่างไรก็ตามในเวลานั้นไม่มีใครทราบเลยว่า Lana และ Sue Ellen ถูกขายไปที่ไหน และเป็นอย่างไรบ้าง
กว่าที่พวกเขาทั้งหมดจะได้กลับมาพบกันก็หลังจากที่มีการพัฒนาของโซเชียลมีเดียหลังจากนั้น และไม่กี่ปีหลังจากที่พบกัน Lena ก็จากไปด้วยโรคมะเร็ง
RaeAnn Mills (ขวา) กับ Lena (ซ้าย) ผู้จากไปด้วยโรคมะเร็งในปี 1998
ความเห็นส่วนมากของลูกๆ ต่อแม่แท้ๆ ของตัวเองนั้นเป็นไปอย่างเลวร้าย โดยจากสี่คนที่มีชีวิตอยู่ มีเพียง David เท่านั้นที่ออกมาบอกว่าแม่ของพวกเขาขายพวกเขาไปด้วยความจำเป็น ในขณะที่คนที่เหลือแทบจะไล่แม่แท้ๆ ไปลงนรกเลยด้วยซ้ำ
ส่วนตัวผู้เป็นแม่นั้น หลังจากที่ขายลูกทั้ง 5 คนออกไป ก็แต่งงานใหม่และมีลูกสาวอีก 4 คน และจากคำบอกเล่าของลูกๆ เธอไม่เคยเสียใจที่ต้องจากลูกๆ ของตัวเองไปเลยแม้แต่น้อย
ที่มา rarehistoricalphotos, nwitimes
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.