“เวนิส” คือสถานที่ท่องเที่ยวอันแสนสวยงามในประเทศอิตาลี เป็นเมืองที่คนทั้งโลกต่างขนานนามกันว่า “เมืองแห่งสายน้ำ” เพราะเราจะเห็นว่ามีลำคลองตัดผ่านไปทั่วเมือง กับฉากคู่รักนั่งบนเรือพายสุดโรแมนติก
แต่ล่าสุดเมืองแห่งสายน้ำแห่งนี้อาจต้องถูกเปลี่ยนไปเรียกว่า “เมืองใต้บาดาล” เสียแทน เพราะได้เกิดเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ทำให้กว่าพื้นที่กว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของเมืองนั้นจมไปอยู่ใต้น้ำ!!
ภาพของเมืองเวนิส กับเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่
.
นี่คือภาพบรรยากาศของเมืองเวนิสในวันที่ 29 ตุลาคม 2018 หลังจากที่เกิดฝนตกหนักจนทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1.52 เมตร
มองไปโดยรอบก็จะเห็นว่ามีแต่น้ำท่วมเต็มพื้นที่ไปหมด นักท่องเที่ยวหรือแม้แต่เจ้าหน้าที่เองก็ต้องเดินลุยน้ำสัญจรไปมา
ในตอนแรกมีการวางฐานไว้เดิน ก่อนจะเอาออกไปเพราะระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นมากจนเสี่ยงโดนพัดไปกับกระแสน้ำ
.
นี่จึงถือว่าเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปีของเวนิส นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2008 โดยตามปกติแล้วเมืองแห่งนี้จะมีช่วงที่ระดับน้ำขึ้นสูงอยู่ทุกๆ ปี (เหมือนช่วงหน้าฝนแล้วเกิดน้ำท่วม)
และสำหรับช่วงเวลานี้ก็เป็นช่วงกึ่งกลางของระยะเวลาที่ระดับน้ำจะสูงขึ้นกว่าปกติ เพียงแต่ว่ามันไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นมากขนาดที่ท่วมไปเกือบทั้งเมืองแบบนี้มานานมากแล้ว
.
.
อย่างไรก็ตาม Luigi Brugnaro นายกเทศมนตรีของเวนิสก็ได้ออกมาบอกว่า ปัญหาน้ำท่วมนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าหากว่าโครงการ Moses เสร็จสมบูรณ์
โครงการดังกล่าวคือการเพิ่มหนทางระบายน้ำไปทั่วเมือง ป้องกันน้ำท่วมจากระดับน้ำที่สูงขึ้นทุกๆ ปี หากแต่ว่าโครงการนี้กลับล่าช้าออกไปเพราะเรื่องของงบประมาณที่บานปลาย บวกกับการคอร์รัปชันที่เกิดขึ้น
.
ด้วยเหตุนั้นเอง น้ำที่ไม่สามารถระบายออกไปได้จึงเข้าท่วมเมืองในที่สุด กระทบไปถึงการวิ่งมาราธอนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งนักวิ่งจำเป็นต้องลุยฝนกันไป
.
.
.
.
.
.
ที่มา: businessinsider , euronews
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.