ถือว่าเป็นการทดลองแปลกๆ ที่อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้กันเลยล่ะ เมื่อชายหนุ่มรายหนึ่งเกิดอยากจะลองอะไรแปลกๆ อย่างการขังตัวเอง ภายในเต็นท์เล็กๆ กับพืชจำนวน 200 ต้น
เพื่อพิสูจน์ว่าพืชเหล่านี้ จะสามารถเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นออกซิเจนเพียงพอต่อการมีชีวิตรอดของเขาหรือไม่…
https://www.instagram.com/p/BpIqliOAVh3/
โดยเบื้องต้นแล้ว ตามธรรมชาติของต้นไม้จะดูดออกซิเจน และคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในช่วงเวลากลางคืน ส่วนในช่วงกลางวันก็จะดูดคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไป และคายออกมาเป็นออกซิเจน อันเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้สิ่งมีชีวิตบนโลกดำรงอยู่ต่อไปได้
และด้วยข้อจำกัดในเรื่องนี้ นาย Kurtis Baute จากประเทศแคนาดา จึงตัดสินใจขังตัวเอง ภายในเต็นท์ไบโอโดมขนาด 3×3 เมตร อันเป็นหนึ่งภารกิจที่ท้าทายถึงชีวิต
ด้วยทฤษฏีที่ว่าการที่เขาหายใจออกเป็นคาร์บอนฯ พืชสีเขียวในนั้นจะสามารถเปลี่ยนเป็นออกซิเจนได้มากพอ ที่จะทำให้เขาหายใจต่อไปได้ภายในระยะ 3 วันหรือไม่
แต่โชคไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก หลังจากที่เข้าไปอยู่ในนั้นได้ประมาณ 15 ชั่วโมง ปริมาณก๊าซคาร์บอนฯ สูงเกินจนถึงขีดอันตราย มีความเสี่ยงที่จะทำให้สมองได้รับความเสียหาย หรือถึงขั้นโคม่ากันได้เลย…
“ผมอาจจะอยู่รอดภายในนั้นได้ 3 วัน โดยเป้าหมายของผมคือต้องไม่ตาย เป้าหมายที่จะต้องบรรลุโปรเจกต์นี้ให้ได้ โดยไม่บวมช้ำ สมองเสียหาย เป็นลมแดด หรือเกิดอันตรายใดๆ กับร่างกายของผม” ข้อความที่นาย Baute เขียนเอาไว้บนเว็บไซต์ของเขาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
Extended video: @kurtisbaute emerging from inside his air-tight greenhouse after 14 hours of his #KurtisInAJar experiment. Interviews with his paramedic friend and sister in-law who were assisting in keeping him safe. pic.twitter.com/tSe5DwAWtE
— Gord Kurbis (@CameraguyGord) October 25, 2018
ผลปรากฎออกมาแล้วว่า การที่นำพืชจำนวนมากถึง 200 ต้น นำมาวางไว้ในไบโอโดมที่มีอากาศอัดแน่นไม่ถ่ายเท ทำให้เกิดความเสี่ยงประการแรก
ประกอบกับท้องฟ้าที่มีเมฆหนา ทำให้แสงจากดวงอาทิตย์ส่องลงมาไม่ถึงสำหรับกระบวนการสังเคราะห์แสง ทำให้พืชเปลี่ยนก๊าซไม่ทัน…
Plants are great at soaking up CO2, they love the stuff.. But they can only handle so much, and since it isn't a bright and sunny day (its overcast) they aren't getting the light they need… Which means CO2 just keeps rising. Will have to abort today if this keeps up.
— Kurtis Baute (@kurtisbaute) October 24, 2018
“พืชมีคุณสมบัติดูดซับคาร์บอนฯ ได้ดีเยี่ยม พวกมันชอบแบบนั้นนะ แต่รับมือกับสถานการณ์แบบนี้ไม่ไหว หลังจากที่ไม่มีแสงแดดที่เพียงพอ
นั่นหมายความว่าก๊าซคาร์บอน ก็ยิ่งมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และผมจำเป็นต้องล้มการทดลองไป หากเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ” คำแถลงจากหนุ่มนักทดลอง ทวีตเอาไว้เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2018
All safe. My goal here was/is to engage people about #climatechange, and seeing the response on twitter I feel like it's been a huge success. Thanks to everyone for your support. Now is just the beginning – it's time to change our lifestyles!
— Kurtis Baute (@kurtisbaute) October 24, 2018
ทั้งนี้ จากการล้มเลิกการทดลองดังกล่าว แม้จะไปไม่ถึง 3 วันดั่งที่ตั้งใจไว้ เขากลับมองว่าเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ หลังจากที่ได้รับรู้ถึงผลกระทบอันร้ายแรง ของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
และความรุนแรงของการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ภายในพื้นที่อันจำกัด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม เราจึงต้องพึ่งพาอากาศอันบริสุทธิ์ เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว
ที่มา: bbc, odditycentral
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.