เรื่องของ “การเดินทางข้ามเวลา” อาจดูเป็นน่าเรื่องที่น่าเหลือเชื่อสำหรับใครบางคน แต่สำหรับคุณยายคนนี้นั้นเธอได้ออกมาบอกกับทุกคนว่ามันเป็นเรื่องที่เธอเองได้พิสูจน์มาแล้วว่ามันมีอยู่จริง
ทั้งหมดนี้คือเรื่องเล่าจากปากของคุณยายที่ชื่อว่า Chloe จากประเทศฟินแลนด์ เมื่อเธอบอกกับทุกคนว่าตนเองได้เคยทำการเดินทางข้ามเวลาไปในปี 6000 และได้พบกับเรื่องราวน่าเหลือเชื่อมากมาย…?!
คุณยายที่ออกมาเล่าถึงการเดินทางข้ามเวลาให้ทุกคนได้ฟังเป็นครั้งแรก
คุณยาย Chloe เล่าว่าการเดินทางข้ามเวลาของเธอนั้นเกิดขึ้นในวันที่ 3 สิงหาคม 1966 สมัยที่เธอยังคงเป็นนักเศรษฐศาสตร์ให้กับ “ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์แห่งชาติของฟินแลนด์”
เธอเล่าว่าตนเองมีโอกาสได้เข้าไปนั่งอยู่ในเครื่อง “ไทม์แมชชีน” ล็อกมือล็อกเท้าเอาไว้ ก่อนที่จะสวมหมวกเหล็กที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าแล่นไปทั่วตัว
แล้วจู่ๆ เธอก็ได้ไปยืนอยู่กลางถนนแห่งหนึ่งของปี ค.ศ. 6000 ทำให้เธอได้สามารถสืบหาข้อมูลเรื่องราวแห่งโลกอนาคต
เธอบอกว่า “ไทม์แมชชีน” ที่เธอนั่งนั้นไปได้แต่อนาคต ไม่สามารถย้อนกลับไปอดีตได้
จากคำบอกเล่าของเธอนั้น Chloe ยืนยันว่าเธอได้เดินทางไปยังโลกอนาคตมาจริงๆ ซึ่งก็ได้หยิบเอาหลักฐานที่จะพิสูจน์เรื่องนี้ได้ นั่นคือพืชชนิดหนึ่งที่เธอบอกว่ามันเป็นพืชเก่าแก่ชื่อว่า Roklorulo
เธอบอกว่ามันคือพืชที่เป็นอาหารให้กับไดโนเสาร์ในยุคดึกดำบรรพ์ แต่ในโลกอนาคตนั้นจะมีพืชชนิดนี้ให้เห็นอยู่ทั่วไป ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะหลายๆ สิ่งในอดีตที่คืนชีพขึ้นมา ไม่เว้นแม้แต่ “ไดโนเสาร์”?!
Chloe บอกกับทุกคนว่าไดโนเสาร์คืนชีพขึ้นมาอีกครั้งในปี 4529 และพวกมันก็ถูกนำไปไว้ที่สวนสัตว์เพราะคิดว่าคงจะไม่เป็นอันตรายเท่าไหร่นัก แต่แล้วพวกมันก็ได้ฆ่าสัตว์อื่นๆ รวมถึงมนุษย์ก็ด้วย จึงถูกปล่อยคืนกลับไปสู่ธรรมชาติ
อีกทั้งไดโนเสาร์ก็ไม่ใช่สิ่งเดียวที่คืนชีพขึ้นมาในโลกอนาคตที่เธอไปถึง เธอบอกว่าตนเองได้เจอกับพืชมากมายหลายชนิดที่เลื้อยขึ้นไปตามตึกสูงระฟ้า
รวมถึงการได้เห็น Neanderthals มนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วกำลังว่ายน้ำอยู่ก็มี
เมื่อพูดถึงหลายๆ สิ่งที่คืนชีพขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอก็ได้เล่าถึงหลายๆ อย่างที่มนุษย์ได้ทำการพัฒนาขึ้นมาในอนาคตที่เธอได้ไป
เธอบอกว่าโลกของเราในตอนนั้นเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้าท่ามกลางผืนป่าอันเขียวขจี โดยวัสดุที่ใช้ในการสร้างสิ่งเหล่านั้นก็เหมือนจะเป็น “โลหะหน้าตาประหลาด”
ทุกพื้นที่จะมีแต่การใช้ “พลังงานไฟฟ้า” เพียงอย่างเดียว ในขณะที่พวกแก๊ส น้ำมัน หรืออะไรที่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมนั้นจะไม่มีอยู่ให้เห็นเลย
นอกจากนั้น เธอยังบอกอีกว่าในอนาคตจะไม่มีอาชญากรรมใดๆ เกิดขึ้นมาอย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่ปี 2300 มนุษย์จะถูกฝังไมโครชิปไว้ในดวงตาตั้งแต่กำเนิด และมันจะคอยส่งเสียงเตือนเมื่อคนคนนั้นทำความผิด
อย่างไรก็ตาม เรื่องเล่าของเธอก็ยังคงไม่สามารถพิสูจน์ยืนยันได้ว่ามันจริงแท้แค่ไหน เอาไว้ถ้าเรามีอายุถึงปี 6000 เมื่อไหร่เดี๋ยวก็คงรู้กันเองแหละนะ
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.