ในปี 1918 มันเฟรท ฟ็อน ริชท์โฮเฟิน หรือ “เรดบารอน” ได้ทำสถิติยิงเครื่องบินรบฝ่ายตรงข้ามตกกว่า 80 ลำไว้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (อ่านเรื่องราวของเขาได้ที่ เปิดตำนาน “เรดบารอน” ปีศาจแห่งทัพอากาศเยอรมัน)
ในเวลานั้นคงไม่มีใครคิดว่าจะมีคนที่ทำลายสถิติของเขาได้อีกแล้ว จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่าสองทศวรรษ ในที่สุดก็มีนักบินที่มีฝีมือมากพอที่จะทำลายสถิติของเรดบารอนปรากฏตัวขึ้นในเยอรมนีจนได้
นี่คือเรื่องราวของ เอริค ฮาร์ทมานน์ (Erich Hartmann) ตำนาน “ปีศาจสีดำ” ผู้ยิงเครื่องบินของฝ่ายพันธมิตร ตกไปทั้งหมดถึง 353 ลำเลยทีเดียว
เอริค ฮาร์ทมานน์ เกิดเมื่อวันที่ 19 เมษายน 1922 และเดินทางไปมาระหว่างจีนกับเยอรมนีในช่วงต้นๆ ของชีวิต ก่อนที่จะได้รับใบอนุญาตขับเครื่องบินในตอนที่อายุได้เพียง 15 ปีเท่านั้น
เขาเข้าร่วมกองทัพเมื่อปี 1939 ในตอนที่อายุได้ 18 ปี และเริ่มต่อสู้บนน่านฟ้าเมื่อปี 1942 และในช่วงปลายปีนั้นเองเขาก็ยิงเครื่องบินโซเวียตตกไปแล้วสองลำ ก่อนที่จะเริ่มตำนานของตัวเองขึ้น
ในเดือนเมษายน 1943 เอริคยิงเครื่องบินฝ่ายพันธมิตรตกไป 11 ลำ จนได้กลายเป็นเอซไพล็อตของกองบิน และในอีกสี่เดือนต่อมา เขาก็ยิงเครื่องบินฝ่ายพันธมิตรตกไปอีกถึง 40 ลำเลยทีเดียว
เทคนิคการบินของเขาเป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยาก โดยเขาจะบินจนกว่าจะ “เห็นศัตรูเต็มเป้าเล็ง” โดยเจ้าตัวบอกว่าหากทำแบบนี้ การยิงจะไม่มีวันพลาด
เขาเคยทำเครื่องตกด้วยอุบัติเหตุที่พื้นที่ของศัตรูหนึ่งครั้ง (จากการที่ซากเครื่องบินศัตรูปลิวมาใส่เครื่องบินของเขา) และถูกจับตัวไว้โดยทหารโซเวียต อย่างไรก็ตามเขาสามารถหนีออกมาได้ด้วยตัวเอง และเดินกลับฐานทัพได้สำเร็จ
แถมตอนสิ้นปีนั้นเองเอริคก็ยิงเครื่องบินฝ่ายพันธมิตรตกไปกว่า 150 ลำ จนไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เขาจะได้ถูกขนานนามว่า “ปีศาจสีดำ” ด้วยความหวาดกลัวจากทางทหารโซเวียต
ที่จริงแล้วในสมัยนั้นยังมีนักบินที่มีชื่อเสียงอยู่อีกหลายคน เช่น กุนเทอร์ ราลล์ (Günther Rall) โดยเขามีสถิติยิงเครื่องบินฝ่ายพันธมิตรตกอยู่ที่ 272 จนเป็นอีกตำนานหนึ่งของเยอรมนี
อย่างไรก็ตามในปี 1945 เอริค ฮาร์ทมานน์ ก็ได้ทำลายสถิติของเขาไป และเมื่อเดือนพฤษภาคม ปีนั้นเอง ก่อนที่เยอรมนีจะประกาศยอมแพ้เอริคก็สอยเครื่องบินฝ่ายพันธมิตรไป แล้วถึง 353 ลำเลยทีเดียว
สี่ยอดนักบินแห่งเยอรมนี
จากซ้ายไปขวา เกอร์ฮาร์ด บาร์คฮอน, เอริค ฮาร์ทมานน์, โยฮัน สไตน์ฮอฟ และกุนเทอร์ ราลล์
หลังจากจบสงครามเอริคก็ถูกส่งไปเป็นนักโทษสงครามอยู่ที่โซเวียตอยู่ราวๆ 10 ปี ก่อนที่เยอรมนีตะวันตกจะนำตัวเขากลับมาในประเทศ ซึ่งแม้จะไม่ได้รับการต้อนรับอย่างฮีโร่ก็ตามแต่เขาก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขต่อไป
และสถิติของปีศาจสีดำเองก็ยังไม่มีใครทำลายได้ แม้ในปัจจุบัน
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.