ในอดีตมีคนเคยบอกว่าแทบทุกสิ่งเป็นงานศิลปะได้ขอเพียงมีจินตนาการ เชื่อว่าคำพูดคำนี้คงเป็นคำที่ใช้บรรยายผลงานของ Piero Manzoni ศิลปินชาวอิตาลีได้เป็นอย่างดีเลย
เพราะในปี 1961 นายคนนี้ได้ออกผลงานศิลปะสุดแปลกที่ไม่เหมือนใครออกมาให้โลกเห็น ด้วยการทำ “อุจจาระอัดกระป๋อง” ออกมาในชาวโลกได้ชื่นชมเสียเลย
งานศิลปะชิ้นนี้มีชื่อว่า “Merda d’artista” ในภาษาอิตาลีหรือ “Artist’s Shit” ในภาษาอังกฤษ ซึ่งหากจะแปลแบบตรงๆ ก็คงจะเป็น “ขี้ศิลปิน” เลยนั่นเอง
ผลงานชิ้นนี้ถูกทำออกมาในรูปแบบของกระป๋องเหล็ก 90 กระป๋องที่มีตัวเลขกำกับ และมีตัวหนังสือเขียนเอาไว้ในภาษาอังกฤษ อิตาลี และเยอรมันว่า
“Artist’s Shit บรรจุสิ่งหมักหมม 30 กรัม ผลิตและบรรจุภัณฑ์ ในเดือนพฤษภาคม 1961”
โดยผลงานชิ้นนี้เป็นการรวมแนวคิดที่หลากหลาย โดยหนึ่งในนั้นเป็นการแสดงเป็น “เอกลักษณ์” เฉพาะตัวของศิลปินเอาไว้ในผลงาน และหากมองกันแค่จุดนี้ “Artist’s Shit” ก็เป็นผลงานที่แสดงตัวตนของ Manzoni ไว้อย่างชัดเจนจริงๆ
ว่ากันว่าในสมัยก่อนพ่อของ Manzoni ซึ่งทำโรงงานอาหารกระป๋องเคยด่าเขาที่เลือกจะเป็นศิลปินว่า “งานของแกมันขี้ชัดๆ” เขาเลยได้ความคิดในการทำผลงานนี้ขึ้นมา
แต่แทนที่ผลงานของเขาจะได้รับการตอบรับด้วยความรังเกียจ กลับมีคนจำนวนมากที่ชื่นชอบผลงานของ Manzoni โดยผลงานของเขามีราคาเฉลี่ยถึงกระป๋องล่ะ 37 ดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเป็นเงินในปัจจุบันได้ราวๆ 46,000 บาท)
นอกจากนี้ผลงานของเขายังมียังมีกระป๋องหนึ่งซึ่งถูกซื้อไปด้วย “ทอง 30 กะรัต” เลยด้วย เท่านั้นยังไม่พอเมื่อเวลาผ่านไป ราคาของ “Artist’s Shit” ก็ยังมีแต่จะแพงขึ้นเรื่อยๆ อีก
เพราะในปี 2016 “Artist’s Shit” นั้นมีราคาประมูลอยู่ที่กระป๋องล่ะ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบๆ 10 ล้านบาท) เลยทีเดียวเรียกได้ว่าอุจจาระของ Manzoni นั้นแพงกว่าทองแล้วก็ไม่ผิดนัก
อย่างไรก็ตามผลงานของ Manzoni นั้นก็ไม่ใช่จะไม่มีคนออกมาตั้งข้อสงสัยเลย เพราะด้วยความที่กระป๋องทำจากเหล็กทำให้ ไม่สามารถเอกซเรย์ดูได้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้น จึงมีคนที่เชื่อว่าสิ่งที่อยู่ในกระป๋องอาจจะไม่ใช่อุจจาระจริงๆ
แน่นอนว่าตลอดเวลาที่ผ่านมามีคนจำนวนมากที่อ้างว่าตัวเองได้ลองเปิดกระป๋องดูแล้ว แต่โดยมากจะไม่มีหลักฐานยืนยันที่แน่ชัด ว่าของที่อยู่ในนั้นจะเป็นของที่ Manzoni ใส่มาตั้งแต่ต้นจริงๆ
นั่นทำให้ “Artist’s Shit” ของ Manzoni ยังคงเป็นตำนานงานศิลปะที่ทรงคุณค่าทั้งในทางจิตใจและมูลค่าอยู่เหมือนเดิม
ที่มา allthatsinteresting, tate และ odditycentral
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.