เคยได้ยินเรื่องของเหมืองเมียร์นี (บางที่ก็เรียกเหมืองเมียร์) กันไหม นี่เป็น “อดีต” เหมืองเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งตั้งอยู่ในไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่โซเวียตยิ่งใหญ่ในช่วงสงครามเย็นเลย
เหมืองเมียร์นีเป็นเหมืองเพชรแบบเปิด มีการขุดค้นตั้งแต่ในช่วงปี 1955 และเปิดทำการจริงๆ โดยคำสั่งของโจเซฟ สตาลินในปี 1957
เนื่องจากเหมืองเมียร์นีมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศเย็นจัด การสร้างเหมืองในยุคแรกๆ เป็นไปได้อย่างยากลำบากมาก เพราะพื้นที่ที่มีการพบเหมืองนั้นส่วนใหญ่จะถูกปกคลุมไปด้วยเพอร์มาฟรอส และที่มักจะละลายเป็นโคลนในหน้าร้อน
นอกจากนี้อากาศที่นี่ยังหนาวมากจนน้ำมันแข็งเป็นน้ำแข็งเลยด้วย แต่ด้วยความพยายามของโซเวียตในสมัยนั้น สุดท้ายเหมืองแห่งนี้ก็เปิดทำการได้สำเร็จจนได้
และคงต้องบอกว่าความพยายามของโซเวียตได้รับผลตอบเช่นอย่างใหญ่หลวงเลยก็ไม่ผิดนักเพราะเหมืองเมียร์นีสามารถผลิตเพชรได้มากถึงปีล่ะ 10 ล้านกะรัตเลยทีเดียว ช่วยเหลือเศรษฐกิจของโซเวียตในสงครามเย็นได้อย่างดี
หลุมของเหมืองเพชรแห่งนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 1.2 กิโลเมตร และลึก 525 เมตร เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลกจนกระทั่งมีการขุดเมืองที่บิงแฮมแคนยอนในสหรัฐอเมริกา
ที่แห่งนี้ลึกมากจนทำให้ที่บริเวณหลุมมีการไหลเวียนทางอากาศที่จะดูดสิ่งที่อยู่บนฟ้าลงมา และในอดีตเองก็เคยมีเฮลิคอปเตอร์ถูกดูดลงไปจริงๆ มาแล้ว ทำให้ที่แห่งนี้ต้องออกกฎห้ามอากาศยานบินผ่านกันเลยทีเดียว
นอกจากนี้บุคคลภายนอกหรือนักท่องเที่ยวจะต้องได้รับอนุญาตก่อนจากเจ้าหน้าที่ก่อนถึงจะเขาไปเยี่ยมชมได้
เหมืองเมียร์นีผลิตเพชรให้กับมนุษย์เรื่อยมาแม้โซเวียตจะล่มสลายไป แต่แล้วจู่ๆ ในปี 2004 เหมืองที่ว่าก็ถูกปิดตัวลงไปอย่างกะทันหัน ด้วยเหตุผลที่ว่ามีน้ำท่วมและพวกเขาเริ่มขุดเหมืองลึกจนเกินไปแล้ว
อย่างไรก็ตามเหตุผลเหล่านี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าเป็นความจริงหรือไม่ เพราะต่อมาในปี 2009 ทางรัสเซียก็ได้มีการประกาศว่าจะกลับมาขุดเหมืองดังกล่าวอีกครั้ง และคาดว่าจะมีการทำงานต่อไปอีกราว 50 ปีเลย
ที่มา allthatsinteresting, alrosa
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.