ในสมัยที่วิทยาศาสตร์ยังไม่ก้าวไกล คนเรามีแนวคิดความเชื่อแบบผิดๆ อยู่มากมาย ทั้งในการทำงาน ทานอาหาร ประเพณี และแน่นอนว่าการแพทย์ก็ด้วย
จริงอยู่ว่าบ่อยครั้งแนวคิดและความเชื่อที่ผิดๆ อาจจะไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนมากนัก แน่หากความเชื่อที่ว่าอยู่ในวงการแพทย์แล้ว เราคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแนวคิดความเชื่อแบบผิดๆ อาจจะทำให้คนคนหนึ่งเสียชีวิตได้เลย
ด้วยเหตุนี้เอง ในวันนี้เราจะมาชม 6 การรักษาผิดๆ ในวงการแพทย์สมัยก่อน ที่ไม่ใช่แค่ไม่ช่วยให้อาการดีขึ้น แต่จะทำให้มันแย่ลงด้วย
เริ่มกันจาก การรีดเลือด
ในสมัยก่อนมีความเชื่อว่าอาการป่วยของมนุษย์เกิดจากของเหลวในร่างกายเป็นพิษ การรีดเลือดออกจากร่างกายช่วยรักษาโรคจึงกลายเป็นที่แพร่หลายในช่วงนั้นไป
โดยการรีดเลือดในสมัยนั้นอาจทำได้หลายวิธี ตั้งแต่ในปลิงดูด เรื่อยไปยันการเอามีดกรีดคนไข้กันตรงๆ เลย และในช่วงหนึ่งยังได้รับความนิยมสุดๆ จนต่างตัดผมมีบริการรีดเลือดเลยด้วย
การใช้มูลสัตว์
นี่เป็นการรักษาที่แพร่หลายในหลายๆ วัฒนธรรมทั่วโลก โดยพวกเขาเชื่อว่าจากเอามูลสัตว์มาชโลมแผลจะช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้น ซึ่งก็ถือว่าแปลกเหมือนกันเพราะในอีกหลายๆ วัฒนธรรม มูลสัตว์นั่นถูกนำมาใช้เป็นอาวุธสงครามเลยแท้ๆ
โดยวัฒนธรรมที่ขึ้นชื่อเรื่องการใช้มูลสัตว์รักษาที่สุดแห่งหนึ่งก็คือประเทศอียิปต์นั่นเอง เพราะไม่เพียงแต่ใช้มูลสัตว์รักษาแผล แต่พวกเขาถึงกับใช้มูลจระเข้ในการคุมกำเนิดเลยด้วย
ซึ่งก็แน่นอนว่ามันไม่ได้มีผลอย่างที่คิด ทั้งในด้านการคุมกำเนิด และการรักษาแผล แถมเผลอๆ เชื้อโรคในมูลสัตว์ยังจะทำให้แผลเน่าง่ายขึ้นเลยด้วย
การเจาะกะโหลก
นี่เป็นอีกหนึ่งในการรักษาที่มีมาหลายยุคหลายสมัย และยังเป็นที่สงสัยกันอยู่ว่าเพราะอะไรคนโบราณถึงได้เชื่อกันสุดๆ ว่ามันช่วยรักษาโรคหรืออาการทางจิตได้
มีกะโหลกคนสมัยก่อนมากมายที่ถูกค้นพบว่ามีรูที่เกิดจากการเจาะกระดูก และในบรรดากะโหลกเหล่านั้น ก็มีอยู่หลายอันเลยที่มีร่องรอยว่าการเจาะกะโหลกนั่นล่ะที่ทำให้พวกเขาตาย
การใช้สารหนู
ด้วยความที่สารหนูเป็นสารพิษที่ไม่ได้ออกฤทธิ์ให้เห็นทันทีที่ใช้ ในสมัยก่อนจึงมีความเชื่อที่ว่ายาหนูเป็นยารักษาโรคสะเก็ดเงิน โรคซิฟิลิส ฝี เป็นไข้ หรือกระทั่งปวดหัวธรรมดาๆ อยู่มาก
เรียกได้ว่าจากปวดหัวธรรมดาๆ คนไข้จะตายกันก็เพราะสารหนูนี่ล่ะ เท่านั้นยังไม่พอในช่วงยุควิคตอเรีย บางครั้งสารหนูก็ถูกผสมลงไปในเครื่องสำอางสำหรับผู้หญิงเลยด้วย
การใช้ยาเสพติดปริมาณมาก
จริงอยู่ที่การใช้ยาเสพติดในการรักษาจะเป็นเรื่องที่มีการทำกันอยู่แม้ในปัจจุบัน (อย่างมอร์ฟีนที่สกัดจากฝิ่น) แต่ในปัจจุบันการใช้ยาเสพติดในการรักษาจะมีการคุมปริมาณเป็นอย่างดี
ผิดกับในสมัยก่อนที่เฮโรอีนและโคเคนถูกใช้กันเป็นว่าเล่น ถึงขั้นที่ผสมในยาแก้ไอธรรมดาๆ และมีการใช้กับเด็กๆ เป็นประจำ จนทำให้บางครั้งคนไข้ก็ติดยาจนร่างกายทรุดโทรมเช่นที่จะหายจากอาการที่ตัวเองเป็น
การ “ตัด” ฟัน
เรื่องของเรื่องมันเกิดจากการที่แพทย์ในฝรั่งเศสในช่วงยุค 1500 ไปพบคนไข้ที่ตายในขณะที่ฟันกำลังขึ้น และลงความเห็นว่าเด็กคนดังกล่าวตายเพราะฟันน้ำนมไปขวางไม่ให้ฟันแท้ขึ้น
นั่นทำให้แพทย์ในสมัยนั้นนิยมที่จะตัดฟันน้ำนมของเด็กๆ โดยเชื่อว่าจะทำให้ฟันแท้ขึ้นได้ง่ายนั่นเอง
ปัญหาคือการตัดฟันน้ำนมไม่ได้ช่วยให้ฟันแท้ขึ้นได้ง่ายเลย แถมยังทำให้เด็กๆ ทานอาหารได้ยากขึ้น และหวาดกลัวทันตแพทย์มากขึ้นอีกด้วย (ก็แน่นอนล่ะ)
ที่มา ranker
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.