พูดถึงเรื่องของชีวิตแต่ละคน ต่างคนต่างมีสิทธิ์ที่จะเลือกในสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเอง แต่ทว่าการเลือกที่จะ ‘ตาย’ นั้นไม่ได้เป็นสิทธิ์พื้นฐานที่มนุษย์สามารถเลือกได้ เพราะด้วยข้อกฎหมายในแต่ละประเทศ ยังยับยั้งแนวคิดเรื่องการุณยฆาตเอาไว้
เรื่องราวจากหญิงสาววัย 27 ปี นามว่า Holly Warland จากประเทศออสเตรเลีย ผู้ประสบกับโรคกล้ามเนื้อเจริญผิดเพี้ยนเหตุพันธุกรรมประเภท LGMD เป็นหนึ่งในโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่พบได้ไม่บ่อยนัก
โรค Limb Girdle Muscular Dystrophy (LGMD) นี้ ค่อยๆ ทำให้กล้ามเนื้อของเธอเสื่อมสภาพตั้งแต่ส่วนคางลงไป จนในที่สุดต้องนอนกลายเป็นผักอยู่บนเตียง…
เธอกล่าวว่า ตรวจพบว่าเป็นโรคนี้เมื่ออายุได้ประมาณ 11 ปี เปลี่ยนชีวิตของเธอจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่โชคดีที่ได้รับกำลังใจสำคัญจากครอบครัวและเพื่อนๆ จนสามารถเรียนจบปริญญาตรีและได้รับเกียรตินิยม ในสาขาจิตวิทยาได้สำเร็จ
และตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเรียนจนถึงขั้นปริญญาเอก อยากจะเป็นดอกเตอร์คว้าปริญญาเอกให้ทันอายุครบ 25 ปี
โดยในขณะที่เธอกำลังผ่านไปได้ครึ่งทางแล้ว สำหรับชั้นปริญญาเอกด้านประสาทวิทยา ร่างกายจะเริ่มอ่อนแอหนักกว่าเก่า
Luke ชายผู้เป็นทั้งแฟน กำลังใจ คนดูแลเธอ และดูแลแมวให้ เป็นผู้ที่คอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอ
เธอได้มีโอกาสออกไปแสดงผลงานทางด้านวิชาการมากมาย เป็นวิทยากร นำเสนอผลงานวิจัยต่างๆ
ภาพถ่ายสุดท้าย ก่อนที่อาการของเธอจะเริ่มหนักมากขึ้น และทำลายความฝันทุกอย่างให้จบลงได้ภายในพริบตา
เธอเคยมีแรงในการออกไปเดินเล่นในแต่ละสัปดาห์
จนในที่สุด ก็ต้องมาเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ไม่ต่ำกว่า 4 ปี
ในปี 2016 ที่ผ่านมา เธอตัดสินใจล้มเลิกการเรียนในระดับปริญญาเอก พร้อมกับถอนตัวออกจากการเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย
เพราะทุกๆ วันที่ต้องตื่นขึ้นมา ก็จะเริ่มพบกับอาการคลื่นไส้ ชีพจรเต้นไม่เป็นจังหวะ ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง หายใจเร็วและลึกผิดปกติ มีอาการสั่นที่ควบคุมไม่ได้
ทำให้ชีวิตยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม กลายเป็นความยุ่งเหยิง เพราะด้วยอาการที่ไม่มีทีท่าจะดีขึ้น จึงทำให้เธอต้องทิ้งความฝันทุกอย่างเพื่อมารักษาชีวิตตัวเอง
เข้าพักฟื้นตัวที่โรงพยาบาลแล้ว ก็ต้องกลับมานอนที่บ้าน
เธอกล่าวว่า การใช้ชีวิตนอนอยู่บนเตียงคงจะเป็นสิ่งที่ทุกคนคิดว่าดี แต่คงไม่ใช่กับการนอนบนเตียงด้วยอาการป่วยเช่นนี้
เพราะชีวิตในทุกๆ วันที่ต้องพบว่านอนอยู่บนเตียง อยากจะไปไหนก็ไปไม่ได้ มีไข้สูงอยู่ตลอดเวลา แค่ไปห้องน้ำยังเป็นเรื่องที่ยากมากๆ
การอาบน้ำในแต่ละครั้งจะเหนื่อยมาก แต่อย่างน้อยก็เป็นช่วงเวลาเดียวที่คนอื่นจะไม่เห็นน้ำตาของเธอ
ต้องกลับมาพบกับแพทย์เป็นประจำ และให้เพิ่มโดสยาแก้ปวดทุกครั้ง เพื่อบรรเทาอาการ เธอไม่เคยได้ยินข่าวดีว่าจะรักษาให้หายขาดได้ มีเพียงคำตอบอ้อมๆ จากแพทย์ว่า อนุญาตให้ติดยาแก้ปวดได้ เพราะไม่มีอะไรจะสูญเสียแล้ว
และวนกลับมานอนเจ็บปวดอยู่ที่บ้าน
เธอเดินทางมาไกลจนถึงจุดที่ต้องยอมรับความจริงว่า ไม่มีทางหายดีได้และจะต้องผ่านในแต่ละวันไปอย่างไร้จุดหมาย
การจะร้องไห้ภายใต้สายระโยงระยางผ่านจมูกยังยาก
“ฉันไม่ได้พยายามที่จะแสดงให้เห็นความซึมเศร้าหรือปัญหาที่แท้จริง แต่คุณสามารถเปลี่ยนมันได้ ฉันทำไม่ได้ ฉันติดอยู่ตรงนี้ ฉันหงุดหงิด ร่างกายมันบังคับฉันไว้ ฉันไม่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้ใครได้
ตราบใดที่ฉันอยากจะบอกให้คุณลุกออกจากโซฟา และหยุดโทษตัวเองได้แล้ว ฉันโกรธพวกคุณ ฉันอิจฉา ฉันอยากได้ชีวิตแย่ๆ ของพวกคุณ เพราะพวกคุณยังมีชีวิตเป็นของตัวเอง” Holly เขียนถึงความรู้สึกของเธอ
จากการที่เธอต้องต่อสู้กับร่างกายตัวเอง เธอจึงเล็งเห็นว่าทางเลือกของการ ‘การุณยฆาต’ เป็นสิ่งที่ควรจะมีและถูกกฎหมาย
แต่โชคร้ายที่ออสเตรเลีย ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ Holly จึงต้องทนอยู่กับอาการปวดจนไม่อยากแบกรับเอาไว้ และเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งที่คิดว่าพร้อมจะไป คนเราก็ควรมีสิทธิ์ที่จะเลือกจบชีวิตตัวเองได้
ในแต่ละวันก็มีทั้ง Luke และน้องแมวเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไป
.
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอไม่เคยคิดว่าการการุณยฆาตจะกลายมาเป็นปัญหาหนึ่งในชีวิต แต่ในเมื่อไม่สามารถทำได้ ก็ต้องหยุดคิดเรื่องนี้ไป ทำได้เพียงแค่รอจนวันสุดท้ายของชีวิต ที่จะต้องตายไปตามธรรมชาติ และมาพร้อมกับความเจ็บปวดอันแสนสาหัส
อย่างไรก็ตาม เธอได้เข้าร่วมกับทางกลุ่ม Dying with Dignity Queensland เพื่อให้ความช่วยเหลือ ผลักดันก่อให้เกิดการตายอย่างสมัครใจที่ถูกต้องตามกฎหมาย ภายในประเทศออสเตรเลีย
และหวังว่าสักวันหนึ่งนักการเมืองจะผ่านร่างกฎหมายนี้ เพื่อให้มีการการุณยฆาตเกิดขึ้น อันเป็นทางเลือกในการจากไปอย่างสงบของประชาชน
ที่มา: @hollywiththemd, boredpanda
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.