โลกของเรานั้นเต็มไปด้วยความลึกลับ มีเรื่องมากมายที่คนเรายังไม่รู้ หรือไม่อาจอธิบายได้ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์
และนี่ก็คือเรื่องราวในครั้งนี้ เพราะ #เหมียวศรัทธา กำลังจะพาเพื่อนๆ ไปชม 4 ปริศนาโบราณของโลกที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ และยังไขกันไม่ได้แม้ในปัจจุบัน
“คัมภีร์ปีศาจ”
นี่เป็นพระคัมภีร์ที่บันทึกเรื่องของปีศาจไว้สมชื่อ และมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “Codex Gigas” โดยเจ้าคัมภีร์ที่หนาสุดๆ เล่มนี้ เชื่อกันว่าถูกเขียนขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 13 โดยนักบวชที่ทำสัญญากับปีศาจคนหนึ่ง
ว่ากันว่านักบวชคนนี้เขียนหนังสือเล่มดังกล่าวในเวลาเพียงหนึ่งวันเท่านั้น โดยเป็นการเขียนขึ้นเพื่อแลกกับการละเว้นโทษประหารของตนเอง
และแม้ว่าตำนานส่วนใหญ่เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้จะฟังดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ แต่อย่างน้อยๆ นักวิทยาศาสตร์ก็ยืนยันได้ว่าหนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นโดยคนเพียงคนเดียวในระยะเวลาสั้นๆ จริงๆ
แต่สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของหนังสือเล่มนี้คือมีหน้ากระดาษที่หายไปราวๆ 20 หน้า ทำให้เนื้อหาทั้งหมดของมันกลายเป็นปริศนาไป
เส้นนัซกา
นี่เป็นลายเส้นลึกลับขนาดใหญ่ กินอาณาเขตพื้นที่กว่า 520 ตารางกิโลเมตร ในทะเลทรายนัซกา ประเทศเปรู ซึ่งว่ากันว่าเขียนขึ้นโดยชาวนัซกาโบราณ เมื่อระหว่างช่วง 500 ปีก่อนคริสตกาล ถึง ค.ศ. 500
เส้นพวกนี้ถูกพบอยู่หลายอันและมีลักษณะที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่คน ลิง ปลา นก หรือเสือจากัวร์ แต่ถึงจะมีการค้นพบเส้นนัซกามามาก แต่ในปัจจุบันก็ยังไม่ทราบอยู่ดีว่าคนสมัยก่อนเขียนเส้นพวกนี้มาเพื่ออะไร
ซากโบราณสถานใต้น้ำที่ญี่ปุ่น
นี่เป็นสิ่งก่อสร้างอายุราวๆ 5,000 ปีที่มีลักษณะคล้ายพีระมิด ซึ่งถูกค้นพบที่ใกล้ๆ กับเกาะโยนากุนิในประเทศญี่ปุ่น
แม้ไม่อาจมั่นใจได้ว่าโบราณสถานที่พบนี้มาจากไหน หรือแม้กระทั่งว่าเป็นของที่เกิดขึ้นด้วยมือมนุษย์จริงๆ ไหม แต่ก็มีแนวคิดที่ว่านี่อาจจะเป็นผลงานของคนในยุคโจมงก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
อีกแนวคิดที่น่าจะเป็นไปได้ คือจริงๆ แล้วพีระมิดนี้ไม่ได้เป็นโบราณสถานด้วยซ้ำ และเพียงแค่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ คล้ายที่เกิดขึ้นมาแล้วในประเทศสกอตแลนด์นั่นเอง
โรมัน โดเดกะฮีดรอน
“โดเดกะฮีดรอน” คือชื่อรูปทรงสิบสองหน้า ดังนั้นสิ่งที่พบในครั้งนี้ก็มีชื่อแปลตรงๆ ว่า รูปทรงสิบสองหน้าแห่งโรมัน โดยนี่เป็นวัตถุประหลาดที่มักถูกพบในหลายๆ ประเทศที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของชาวโรมันโบราณ
โรมัน โดเดกะฮีดรอน มีลักษณะคล้ายลูกเต๋าที่มี 12 เหลี่ยม และด้านในกลวง ซึ่งในปัจจุบันยังไม่อาจทราบได้ว่าทำขึ้นมาเพื่ออะไร เป็นไปได้ว่านี่จะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำนาย ใช้เป็นเชิงเทียน หรือไม่ก็อุปกรณ์ทางศาสนา
ที่มา ranker
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.