เราอาจเคยเห็นงานนิทรรศการที่เปิดโอกาสให้เราสามารถเข้าไป “ชิมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ยี่ห้อแปลกๆ ที่เราอาจไม่เคยมีโอกาสได้ดื่มกันมาก่อน และมันก็คงเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของชายคนนี้เอามากๆ
เรากำลังพูดถึงชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งวัยประมาณ 50 ปี ผู้ที่ไม่สามารถเดินด้วยขาทั้ง 2 ข้างของตัวเองได้ เขาจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ “รถเข็นคนพิการ” (วีลแชร์) แบบมาตรฐานทั่วๆ ไปในการเดินทางไปไหนมาไหน
รถเข็นมาตรฐานทั่วไป ไม่มีการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า
เขานั้นได้มีโอกาสได้ไปร่วมงาน “นิทรรศการฝรั่งเศส” ซึ่งจัดขึ้นในห้างสรรพสินค้า Seibu ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา และสิ่งที่เขาสนใจมากๆ อย่างหนึ่งภายในงานก็คือ “การชิมไวน์”
เขาจ่ายเงินไปทั้งสิ้น 2,000 เยน (ราวๆ 584 บาท) เพื่อแลกกับการชิมไวน์ 2 แก้วภายในงาน แต่เมื่อเขากำลังจะจิบแก้วที่ 2 นั้น จู่ๆ พนักงานคนหนึ่งก็ยื่นกระดาษมาให้กับเขา
พนักงานบอกว่ากระดาษแผ่นนี้มีให้สำหรับ “ผู้ที่นั่งรถเข็น หรือรถเข็นไฟฟ้า” โดยในกระดาษนั้นบอกให้เขาหยุดดื่มในทันที เพราะนั่งอยู่บน “รถเข็น” แต่ด้วยความที่เขาก็ไม่ได้รู้สึกเมา เขาจึงไม่ต้องการที่จะทำตามคำขอนั้นๆ
เมื่อเขาจัดการกับไวน์แก้วที่ 2 เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบตรงกลับบ้านและทำเรื่องฟ้องร้องไปยังผู้จัดงานและห้างสรรพสินค้าดังกล่าวในทันที หลังมองว่ามันคือ “การเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม”
เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นคดีความที่รับผิดชอบโดยศาลโตเกียว โดยที่ชายผู้ยื่นฟ้องนั้นต้องการเรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนกว่า 1.7 ล้านเยน (หรือราวๆ 496,000 บาท)
ห้างสรรพสินค้า Seibu
ทางด้านห้างสรรพสินค้า Seibu ก็ออกมาอธิบายว่าข้อระเบียบดังกล่าวมีขึ้นเพื่อความปลอดภัยต่อพนักงานและลูกค้าทุกๆ คน
พวกเขาได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ในตอนที่มีชายนั่งรถเข็นคนหนึ่งตกอยู่ในอาการมึนเมา ก่อนที่จะเริ่มบังคับรถเข็นไปเหยียบเท้าหรือกระแทกใส่ขาคนอื่นๆ มันจึงกลายเป็นข้อห้ามนับตั้งแต่นั้นมา
เรื่องนี้ได้ถูกพูดถึงในโลกโซเชียลของญี่ปุ่น กลายเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหลายๆ มุมมอง
“เป็นอย่างนั้น Seibu ก็ไม่ควรรับเงินจากเขาตั้งแต่แรกแล้ว”
“คนในงานรู้สึกหวาดกลัวผู้พิการอย่างนั้นน่ะหรอ?”
“มันก็เหมือนกับขี่จักรยานแหละ ซึ่งเราไม่สามารถทำตอนเมาได้”
“แม้แต่คนที่ยืนด้วยสองขาได้ พวกเขาเองตอนเมาก็มีปัญหาเดียวกัน”
“พอมองออกอยู่นะในมุมของการเลือกปฏิบัติ แต่นี่เขาเรียกเงินถึง 1.7 ล้านเยนเลยเหรอ?! นั่นยิ่งทำให้ผมไม่ค่อยรู้สึกเชื่อถือชายคนนี้สักเท่าไหร่แล้วสิ”
ปัจจุบัน คดีความดังกล่าวยังคงอยู่ในการพิจารณาของศาลผู้รับผิดชอบต่อไป แล้วสำหรับเพื่อนๆ ล่ะคิดว่ามันเป็นเรื่องของ “ความปลอดภัย” หรือ “การเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม” กันแน่??
ที่มา: hamusoku , mainichi , soranews24
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.