หญิงวัย 49 ข่มขืนชายวัย 65 ปี คืนเดียวจัดไป 3 ครั้ง แถมย้ำให้ช้ำใจว่า “กระปู๋เล็กนิดเดียว”

เรื่องที่คุณกำลังจะอ่านต่อไปนี้ อาจจะชวนทำให้สับสนสักเล็กน้อย แต่ทว่าเหยื่อของการถูกคุกคามทางเพศนั้น สามารถกลายมาเป็นผู้ชายได้เช่นเดียวกัน หากไม่มีการสมยอมใดๆ จากอีกฝ่าย อีกทั้งยังโดนเหยียดหยามถึงจิตใจกันด้วย

เรื่องราวของนาย Ah Ruan ชายวัย 65 ปี จากไต้หวัน ได้พบกับหญิงหม้ายนามว่า Ying Ying วัย 45 ปี ลูกครึ่งอเมริกัน-ไต้หวัน ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

โดยที่ทั้งสองได้แลกเบอร์เพื่อติดต่อกัน ชวนกันไปร่วมประทานอาหารหลายต่อหลายครั้ง ทำการพูดคุยแลกเปลี่ยนหลากหลายสิ่ง แต่ทว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่ได้พัฒนาไปในรูปแบบอื่น และยังยืนยันสถานะเป็นโสดอยู่

แต่แล้ววันหนึ่งในเดือนกันยายน Ying Ying ได้ชักชวนนาย Ah Ruan มาทานอาหารตามปกติ จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. เธอได้ทำการชวนเขาไปที่บ้านของตัวเอง และเขาก็รู้สึกว่าเธอน่าจะเริ่มสนใจในตัวเขามากขึ้นแล้ว แต่ในคืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นไปนอกเหนือ จากการที่เขานอนหลับบนพื้นข้างเตียงของเธอ

ในวันถัดมา ทั้งคู่ก็ออกไปทานอาหารด้วยกันอีกครั้ง และในระหว่างมื้อนั้นก็ดื่มเครื่องดื่มมึนเมาด้วย ก่อนจะกลับก็แวะซื้อของในร้านขายของชำ จนกระทั่งมาถึงบ้านของฝ่ายหญิงอีกครั้ง

แต่ในคราวนี้นาย Ah Ruan รู้สึกมึนหัวและมึนจนไม่ได้สติ เขาจึงทิ้งตัวล้มลงเพื่อนอนบนเตียง แต่แล้วก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ของ Ying Ying พยายามสื่อว่าอยากจะมีอะไรกับเขาด้วย

เขาตั้งตัวแทบไม่ทัน และอยากจะลุกหนีออกจากเตียง ทว่าฝ่ายหญิงถอดเสื้อผ้าพร้อมและขึ้นคร่อมเขาแล้ว ในช่วงเวลานั้นเขาทำอะไรไม่ได้ ไม่มีแรงขัดขืนแม้แต่จะผลักฝ่ายหญิงออกไป

ด้วยเหตุนี้ เขากล่าวว่าเขาไม่สามารถปลุกน้องชายตัวเองขึ้นมาได้ตามวัย แต่เธอได้ใส่ยากระตุ้นคล้ายไวอากร้ากับเขา ทำการละลายใส่เครื่องดื่มตอนทานมื้อค่ำด้วยกัน หวังเพื่อจะให้ทำได้ประมาณ 2 รอบ

เมื่อสิ้นสุดรอบที่ 2 แทนที่เธอจะปล่อยเขาไป 1 ชั่วโมงต่อมา เธอก็เริ่มกระบวนการเดิมอีกครั้ง ขึ้นคร่อมฝ่ายชายและทำการข่มขืนเป็นครั้งที่ 3

หลังจากนั้นแล้ว Ah Ruan กล่าวว่าเขาอยากจะหนีออกไปจากบ้านของเธอ แต่กลับทำไม่ได้ เนื่องจากเธอได้บอกกับเขาไว้ว่าต้องใช้คีย์การ์ดในการเปิดประตู เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอยู่ที่บ้านเธออีกหนึ่งคืน

เช้าวันถัดมา เมื่อเขาถาม Ying Ying ว่าทำไมต้องทำการคุกคามทางเพศกับเขาด้วย ฝ่ายหญิงไม่มีแม้แต่คำขอโทษ แถมยังพูดจาดูถูกว่า ขนาดน้องชายของเขานั้นเล็กและไม่ดีเท่ากับของชาวต่างชาติ

ท้ายที่สุดแล้ว Ah Ruan สามารถพาตัวเองกลับมาถึงบ้านได้ แต่เมื่อนึกย้อนกลับไปก็ยิ่งทำให้รู้สึกโกรธ เขากล่าวว่าไม่เคยรู้สึกถูกเหยียบย่ำกดขี่ขนาดนี้มาก่อนในชีวิต

เขาจึงตัดสินใจไปยังโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาทางจิต พบว่าสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้รับความบอบช้ำจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น และมันยังคงเป็นฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเขาทุกคืนวัน…

ที่มา: tw.news.yahoo, today.line.me/tw, worldofbuzz