หญิงสาวคนหนึ่งตัดสินใจให้โอกาสลูกป่วยหนัก ในขณะที่คนอื่นๆ ต่างยอมแพ้ และเมื่อเวลาผ่านไป เธอก็ได้เห็นถึงความแตกต่างที่คุ้มกับการตัดสินใจ
เช้าวันหนึ่ง Jodie Michele ช่างแต่งหน้าจาก Huddersfield สหราชอาณาจักร ต้องตื่นเพราะได้ยินเสียงร้องของลูกแมว เธอจึงเดินออกไปข้างนอกทางสวนหลังบ้าน ก่อนจะเห็นลูกแมวที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือ
หญิงสาวบอกว่า “ตาของมันไม่สามารถเปิดออกได้ เนื่องจากมีการติดเชื้อ นอกจากนี้ยังมีเกล็ดเลือดติดอยู่รอบๆ จมูกของมันด้วย”
เมื่อแมวน้อยได้ยินเสียงของ Jodie มันตัดสินใจร้องดังขึ้นและเดินไปหาเธอเพื่อหาความอบอุ่น ทันทีที่มันถูกแตะต้องโดยหญิงสาว เจ้าเหมียวก็ผ่อนคลายลง แถมยังทำเสียงเพอร์ด้วย
เจ้าเหมียวตัวเล็กมากและข้างนอกอากาศก็หนาว ดังนั้น หญิงสาวจึงอุ้มมันเข้าไปในบ้าน
Jodie รู้ดีว่าแมวน้อยต้องการความช่วยเหลือ ดังนั้น เธอจึงพามันไปทำงานด้วยและใช้เวลาตลอดช่วงเช้าทำให้รู้สึกอบอุ่นทั้งกายและใจ
เมื่อถึงเวลามื้อเที่ยง หญิงสาวก็ได้พาแมวน้อยไปยังคลินิกสัตว์ เพื่อตรวจร่างกาย จากการตรวจพบว่าแมวน้อยหนักแค่ 340 กรัม และสุขภาพของมันก็ไม่ค่อยดี
คุณหมอบอกว่า “แมวน้อยมีโอกาสรอดแค่ 50/50 เท่านั้น มันน่าจะอายุประมาณ 5 สัปดาห์แล้ว แต่มันเป็นไข้หวัดแมวอย่างรุนแรง ดังนั้น ควรให้มันหลับไปตลอดกาล ดีกว่าปล่อยให้มันอยู่อย่างทรมาน”
แต่ Jodie ไม่ทำแบบนั้น เพราะตอนที่อุ้มแมวน้อยไว้ในอ้อมแขน เธอเห็นว่ามันพร้อมที่จะสู้กับทุกความท้าทาย ดังนั้น เธอจึงอุ้มมันออกจากคลินิก และสัญญาว่าจะทำให้มันกลับมาแข็งแรงให้ได้
ตั้งแต่วันนั้น หญิงสาวได้ดูแลแมวน้อยอย่างใกล้ชิด เธอให้อาหารมันทุกๆ 2 ชั่วโมง ให้ยาปฏิชีวนะ และหยอดยารอบดวงตา เพื่อให้ตามันสะอาดจนมองเห็นได้
หญิงสาวทำอยู่อย่างนี้เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ ในที่สุด แมวน้อยที่แทบจะไม่หายใจ ก็มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ตาของมันเกือบจะใสสะอาดหมดจดแล้ว และแน่นอน มันมีพลังมากขึ้นด้วย
Jodie บอกว่า “หลังจากที่มันได้รับความอบอุ่น อาหาร ยาปฏิชีวนะ ยาหยอดตา ได้นอนหลับอย่างเพียงพอ ที่สำคัญได้รับความรักอย่างล้นหลาม มันก็กลับมาร่าเริงและมีสุขภาพดี”
เมื่อแมวน้อยฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ มันกลายเป็นแมวที่ร่าเริง ขี้เล่น และค่อนข้างมีสติ ในขณะเดียวกัน Jodie พบว่าบ้านของเธอกลายเป็นบ้านที่สมบูรณ์แบบ เพราะมีแมวสองตัวให้กอด และทั้งสองตัวก็รักกันมากด้วย
Jodie บอกว่า “ทุกคนสมควรได้รับโอกาสในการมีชีวิตอยู่ และฉันดีใจมากที่ได้ช่วยชีวิตลูกแมวตัวนี้เอาไว้ได้ มันช่างเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่าจริงๆ”
ที่มา lovemeow
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.