ติ่มซำแห่งรัก เจ้าของร้านยอมตื่นตี 1 ทุกวัน เพื่อเปิดร้านให้กับลูกค้าขาประจำยามใกล้รุ่ง

ในช่วงเวลาตะวันตกดิน เป็นช่วงเวลาปกติของสิ่งมีชีวิตต่างหลับใหลพักผ่อน เพื่อให้มีแรงในการออกไปใช้ชีวิตเมื่อตะวันโผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้าอีกครั้ง

ทว่าชีวิตของมนุษย์เรานั้นไม่เคยหลับใหล เพราะยังมีบางส่วนที่ใช้ชีวิตท่ามกลางแสงอันมืดมิดในแต่ละวัน ด้วยหน้าที่การงานหรืออะไรก็ตามแต่ เพราะฉะนั้นเรื่องของอาหารการกินในช่วงนี้จึงหารับประทานได้ยากกว่าปกติ เว้นเสียแต่จะเข้าร้านสะดวกซื้อ

 

 

สำหรับร้านติ่มซำ Sun Hing ในฮ่องกง กลับเลือกช่วงเวลาทำการในช่วงเช้าตรู่ดังกล่าวนี้ ก็เพื่อมอบความอิ่มอร่อยให้กับลูกค้าขาประจำมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปีแล้ว เหตุใดที่จะต้องทำแบบนี้ล่ะ ทำไมถึงไม่เปิดในช่วงเวลาเช้าๆ แทน?

 

 

Chui Kwok-hing เจ้าของร้านติ่มซำเล็กๆ แห่งนี้ ดำเนินธุรกิจสานต่อจากมือคุณพ่อ Chui Hoi ผู้ริเริ่มสูตรติ่มซำของธุรกิจครอบครัวมาตั้งแต่ปี 1960

เขาเรียนรู้การทำงานภายในร้านจากการสอนของคุณพ่อ เริ่มตั้งแต่งานเล็กๆ จนกระทั่งสามารถไต่เต้าทักษะการจัดการต่างๆ ในหลายปีต่อมา

 

 

ช่วงหนึ่งอาคารที่ตั้งเดิมของร้านติ่มซำครอบครัวนี้ ถูกเรียกเวนคืนและรื้อถอนออกไป ทางครอบครัวจึงได้ตัดสินใจย้ายมายังอาคารแห่งใหม่ในปี 1980

 

 

“ตามปกติแล้วทางร้านจะเปิดให้บริการในเวลา 3.00 น. แต่ลูกค้าจะมารอก่อนตั้งแต่ช่วง 2.30 น. มันจึงเป็นงานที่มีความท้าทายพร้อมกับความคาดหวังของลูกค้าสูงมาก”

“ผมมักจะตื่นเวลาตี 1 ทุกวัน แน่นอนว่ามันเหนื่อยมาก แต่ผมมักจะบังคับให้ตัวเองลุกขึ้นมาได้เสมอเพราะมีลูกค้าขาประจำรอผมอยู่ ผมรู้ว่าพวกเขาจะเริ่มมารอข้างนอกร้านหลังจากที่ผมไปถึงร้านแล้ว เพื่อรอรับประทานติ่มซำของร้านผม”

 

 

ลูกค้าประจำของร้านนาย Chui นั้น จะเป็นกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง คนขับแท็กซี่กะดึก และเหล่านักท่องราตรีท้องว่าง หลังจากที่ใช้ชีวิตมาทั้งคืนแล้ว

 

 

นาย Chui ในวัย 51 ปี มักจะเป็นคนแรกที่มาถึงร้าน โดยใช้เวลาในการเดินประมาณ 5 นาทีจากบ้านของเขา และจะเข้ามาเตรียมการทุกอย่างเพื่อเริ่มทำชุดติ่มซำ ก่อนที่คนงานที่เหลือจะเข้ามาช่วยงานในร้าน

 

 

“ลูกมือของผมจะเข้ามาช่วยงานประมาณ 2.00 น. ผมมีหน้าที่รับผิดชอบในการเตรียมครัวให้พร้อมก่อนจะเริ่มทำอาหาร พอถึงเวลาประมาณ 5.00 น. ผมจะเริ่มทำซาลาเปาหรือติ่มซำเป็นอาหารเช้า และพวกเราจะใช้เวลาทาน 5-10 นาที ก่อนจะกลับไปทำงานต่อทันที”

 

 

ในขณะที่ Chui จัดการทุกอย่างภายในร้าน แต่ทว่าคุณพ่อในวัย 84 ปี ก็ยังคงมีส่วนร่วมในการจัดการธุรกิจครอบครัวแห่งนี้อยู่

 

 

“เขายังเข้ามาทำงานในเวลาตี 3 ทุกวัน ทำให้ผมรู้สึกประทับใจคุณพ่อมากๆ เพราะคุณพ่อมักจะเข้ามาพูดคุยทักทายกับลูกค้า และเพื่อนๆ ของคุณพ่อทุกวัน เขามักจะทำงานในส่วนของแคชเชียร์ คอยดูแลลูกมือและจะออกงานประมาณ 11.00 น. แล้วก็กลับมาทำงานในวันรุ่งขึ้น”

 

 

แม้ว่าธุรกิจร้านติ่มซำจะเป็นไปได้สวย แต่สำหรับชีวิตของนาย Chui เองแล้วยังไม่สามารถหาใครมาแทนที่เขาได้ เมื่อถึงเวลาที่ต้องวางมือลง

เนื่องจากเขาไม่มีครอบครัวเป็นของตัวเอง ไม่มีผู้สืบทายาท จึงเป็นการยากที่จะหาใครมาจัดการแทนเขาเพื่อสานต่อร้านติ่มซำแห่งนี้

 

 

“คนรุ่นใหม่เริ่มมีการต่อต้าน ไม่อยากสานต่อในงานประเภทนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะจะต้องทำงานในช่วงเวลากลางคืน สิ่งที่พวกเราพอจะทำได้ก็คือพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้มันเดินต่อไปได้นานที่สุด”

 

 

ที่มา: scmp, nextshark


Tags:

Comments

Leave a Reply