สตันท์หญิงเสียแขนไปในการถ่ายหนังเรื่อง Resident Evil ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 90 ล้าน

อย่างที่รู้กันดีว่าอาชีพการเป็นสตันท์ให้กับบรรดานักแสดงทั้งหลายนั้น ถือเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก เพราะต้องรับหน้าที่แสดงฉากเสี่ยงอันตรายต่างๆ แทนนักแสดงหลัก

นี่คือเรื่องราวของ Olivia Jackson อดีตสตันท์หญิงที่ได้รับอุบัติเหตุจากการถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง Resident Evil: The Final Chapter เมื่อปี 2015 จนทำให้ชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล

ในวันเกิดเหตุ Olivia เล่าว่าเธอได้รับการจ้างให้มาเข้าฉากต่อสู้แทนนักแสดงนำอย่าง Milla Jovovich แต่เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทีมงานเลยให้เธอเปลี่ยนไปถ่ายทำฉากขี่รถมอเตอร์ไซค์ด้วยความเร็วแทน

 

 

เธอต้องขับรถมอเตอร์ไซค์ท่ามกลางสายฝนไปบนถนนใกล้ๆ กับเขื่อน Pelindaba ในเมือง Pretoria ประเทศแอฟริกาใต้ แต่กลายเป็นว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นระหว่างการถ่ายทำฉากนั้น

เนื่องจากมีกล้องตัวหนึ่งที่ถูกวางเอาไว้กลางทาง โดยปกติแล้วมันจะมีกลไกเคลื่อนสูงขึ้นเพื่อหลบเมื่อรถมอเตอร์ไซค์ขับมาถึง แต่ทว่ามันขยับขึ้นช้าเกินไป ทำให้รถที่ Olivia ขี่มาชนเข้าอย่างจัง

จากการเข้าฉากเธอไม่ได้สวมหมวกนิรภัย ทำให้ผลกระทบที่ได้รับจากการชนมันหนักหนาสาหัสเหลือเกิน Olivia ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลนานถึง 17 วัน

 

 

เธอต้องสูญเสียแขนข้างซ้ายไป และมีกระดูกหักหลายจุด กระดูกสันหลังคดงอ ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลที่ดูน่ากลัว จนไม่สามารถกลับมาทำงานได้เหมือนเดิม

เธอใช้เวลารักษาตัวนานกว่า 3 ปี จนในที่สุดก็ตัดสินใจยื่นเรื่องต่อศาลสูงสุดของเมือง Pretoria ประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทสตันท์ บริษัทที่รับผิดชอบต่อการทำงานของกล้องและเครนยกที่มีปัญหา, และผู้กำกับภาพยนตร์

 

 

ซึ่งรายละเอียดของการฟ้องร้องยังไม่ถูกเปิดเผยเพราะกำลังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ แต่สื่อต่างประเทศคาดการณ์จากรายรับที่เธอเคยได้เป็นจำนวน 20,000 ปอนด์ (825,000 บาท) ต่อเดือนจากการทำงานในประเทศอังกฤษ

และรายได้จากการรับงานสตันท์ให้กับหนังเรื่อง Resident Evil อีกเดือนละ 12,500 ปอนด์ (516,000 บาท) หลังจากอุบัติเหตุในครั้งนั้นก็ทำให้เธอไม่สามารถกลับไปทำงานได้อีกเลย ตามรายงานระบุว่าเธอจะเรียกค่าเสียหายเป็นมูลค่าราวๆ 2.2 ล้านปอนด์ (91 ล้านบาท)

 

ที่มา : uniladolivia_stunts

Comments

Leave a Reply