จากการจับกุมตัวด้วยข้อหา “ชนแล้วหนี” นำไปสู่ความผิดอีกหลายกระทงที่ถูกค้นพบในภายหลัง ซึ่งมันอาจทำให้เด็กสาวอายุ 15 ไม่อาจรอดจากการเข้าสถานพินิจได้
เรากำลังพูดถึงข่าวที่กำลังเป็นกระแสในเมืองเชเลียบินสค์ ประเทศรัสเซีย เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2018 ที่ผ่านมา เมื่อเด็กสาววัย 15 ปี ลูกของมหาเศรษฐีคนหนึ่งในรัสเซีย ขับรถพุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย
เด็กสาวผู้ก่อเหตุ (ไม่ระบุชื่อ)
จากการรายงานกล่าวว่า เธอได้เอารถ Mercedez Benz ของพ่อมาขับอยู่บนท้องถนนตอนเวลาประมาณตี 5 ก่อนที่จะพุ่งชนตำรวจจราจร 2 นายที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนั้น
เธอพยายามหลบหนีจากจุดเกิดเหตุแต่ก็ไม่สำเร็จ ซึ่งเมื่อตำรวจจับกุมตัวเธอได้แล้วก็พบว่าเด็กสาวนั้นกำลังอยู่ในอาการมึนเมาจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
ภาพตอนที่เธอขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แน่นอนว่าเด็กสาวไม่มีใบขับขี่ และหลายๆ คนคงคิดว่าเธอคงจะได้เข้าไปอยู่ในสถานพินิจอย่างแน่นอน แต่แล้วจู่ๆ เรื่องราวนี้ก็เงียบไปไม่มีใครพูดถึง
ทุกคนต่างคาดการณ์ว่าที่เรื่องราวถูกปิดข่าวเงียบนั้นอาจเป็นฝีมือของนักธุรกิจผู้มีชื่อเสียงที่ถูกเผยแค่ว่าเขาชื่อ Vladimir พ่อของเด็กสาวผู้ก่อเหตุ
แต่หลังจากผ่านไปได้ราวๆ 3 สัปดาห์ คดีความนี้ก็ถูกพูดถึงอีกครั้ง ก่อนจะตามมาด้วยคดีความอีกหลายคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจค้นพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับเด็กสาวคนนี้
จากการตรวจค้น พบว่าเธอนั้นครอบครอง “ปืนพก” และกระสุนแบบผิดกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาต รวมไปถึงการสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องที่เธอขู่กรรโชก ไถเงินเด็กคนอื่นๆ ในโรงเรียน
เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่าเด็กสาวเคยขู่ว่า “จะขับรถทับเพื่อนให้ติดไปกับถนนยางมะตอย” บังคับให้เพื่อนต้อง “จูบเท้าของเธอ”
นอกจากนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังบอกอีกว่าเด็กสาวนั้นน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล้นทรัพย์ 2 ครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้ยังคงอยู่ในช่วงของการสืบสวนต่อไป
รถที่เธอขับชนตำรวจ
แม้ปัจจุบันจะยังไม่มีการตัดสินโทษที่เธอจะต้องได้รับ แต่เชื่อว่าจากการเปิดเผยคดีความจำนวนมากที่ตามมานั้นอาจทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมากหลังจากนี้
ที่มา: mirror
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.