เมื่อช่วงวันที่ 23 ธันวาคม 2018 มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุขัดแย้งบนท้องถนน หลังจากที่นักปั่นรายหนึ่งทำการปั่นจักรยานกลางเลนถนน ขวางทางการจราจรของรถยนต์ส่วนใหญ่ และผลสุดท้ายก็โดนรถบรรทุกเบียดลงไปนอนข้างถนน เนื่องจากมีพฤติกรรมขว้างขวดตบใส่กระจกหน้ารถคันดังกล่าว
ข่าวเก่า: หนุ่มนักปั่นยึดพื้นที่กลางเลน แถมโมโหหันตบกระจกที่ตามหลังมา สุดท้ายเลยได้ลงไปนอน
เหตุการณ์จุดชนวนความขัดแย้งบนท้องถนน
ล่าสุดนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวจบลงที่ ตัวคนขับรถบรรทุกวัย 57 ปี และนักปั่นคู่กรณีวัย 35 ปี ถูกตำรวจจับและแจ้งข้อหาด้วยกันทั้งคู่
สำหรับคนขับรถบรรทุกถูกตั้งข้อหา ขับรถโดยประมาท และในส่วนของนักปั่นถูกตั้งข้อหา ปั่นจักรยานโดยประมาทและสร้างความเสียหายแก่ผู้อื่น
คลิปที่สองฝ่ายลงมาเคลียร์กัน แต่ไม่ลงตัว
ในวันเกิดเหตุคือวันที่ 22 ธันวาคม 2018 เวลาประมาณ 11.53 น. ช่วงแยก Pasir Ris Drive 3 กับ Pasir Ris Rise ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้รับแจ้งเหตุที่เกิดขึ้นในวันนั้นด้วย
สำหรับวิดีโอคลิปที่ถูกเผยแพร่ผ่านเพจ Roads.sg มียอดวิวรวมไปแล้วมากกว่า 2,700,000 ครั้ง และกลายมาเป็นคลิปที่ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างอย่างมาก
ทั้งบนโลกออนไลน์ของสิงค์โปร์ลามไปไกลนอกประเทศ กับการกระทำของนักปั่นและผลที่ได้รับจากการกระทำของคนขับรถบรรทุก
โดยในส่วนแรกชาวเน็ตต่างพูดไปในทิศทางเดียวกันว่า จากการกระทำของนักปั่นเขาสมควรแล้วที่จะได้รับผลเช่นนั้น แต่ก็มีชาวเน็ตอีกส่วนที่มองว่าผิดด้วยกันทั้งคู่ นักปั่นก็มีส่วนยั่วโมโห ส่วนคนขับรถบรรทุกก็ทำเกินกว่าเหตุ เพราะอาจจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ถูกจับและแจ้งข้อหาแล้ว ทางด้านคนขับรถบรรทุกวัย 57 ปี ได้ออกมาเปิดเผยกับทางสื่อสิงคโปร์ถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า เขาตั้งใจจะแซงนักปั่นคนนี้ แต่กลับกลายเป็นการชนนักปั่นล้มข้างทางแทน
เขาอ้างว่า ได้ยินเสียงบางอย่างแล้วก็เกิดอาการตกใจจึงหักพวงมาลัยหลบออกทางด้านซ้าย เพราะคิดว่าอาจจะชนกับแท็กซี่ด้านขวา เนื่องจากพยายามจะขับแซงนักปั่นแต่ยังไม่พ้น
แต่ภาพในคลิปที่เห็น ต้นตอของเสียงดังกล่าวน่าจะมาจากนักปั่นที่ขว้างขวดน้ำใส่กระจกหน้ารถของเขา และคุณลุงคนขับรถบรรทุกก็ไม่รู้เลยว่ามีคนบันทึกคลิปเหตุการณ์ในครั้งนี้เอาไว้ด้วย และกลายมาเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
“ผมต้องไปติดกระจกข้างใหม่ราคา 350 บาท (15 สิงค์โปร์ดอลลาร์) ตอนผมไปถึงบ้าน ผมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ภรรยาฟังแค่คนเดียว ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะเกิดเป็นข้อถกเถียงที่ใหญ่โตขนาดนี้” คุณลุงกล่าวปิดท้าย
ที่มา: zaobao, mothership.sg
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.