ในปี ค.ศ.79 เหตุภูเขาไฟวิสุเวียสระเบิด ทำลายล้างเมืองปอมเปอีให้หายไปจากประวัติศาสตร์ในเวลาเพียงคืนเดียว
แม้จะผ่านมาเกือบ 2,000 ปี แต่เหตุการณ์นี้ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่นักโบราณคดีให้ความสนใจ และทำการสำรวจเพิ่มเติมมาโดยตลอด
สำหรับใครที่อยากอ่านเรื่องการระเบิด เข้าไปได้ที่: ย้อนกลับไปดู หนึ่งในเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดสุดสะเทือนใจ ‘ปอมเปอี’ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!?
เนื่องจากเหตุการณ์เกิดในช่วงกลางคืน ที่ทุกคนกำลังนอนหลับพักผ่อน เรามักจะได้เห็นข่าวของการค้นพบซากของคนนอนเสียชีวิต บ้างนอนกอดกัน บ้างก็พยายามตะเกียกตะกายหนีความร้อน
แต่การค้นพบ “ซากโครงกระดูกม้า” ในครั้งนี้ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่อีกด้วย
สภาพศพโดยทั่วไปจากการขุดค้นครั้งก่อนหน้า
จุดที่พบซากม้า อยู่บริเวณ Villa of Mysteries ซึ่งเป็นชื่อสถานที่เรียกย่านที่อยู่อาศัยของนายทหารชาวโรมันผู้มั่งคั่ง
ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดที่เห็นวิวทะเล มีการพบทั้งไวน์ รวมถึงภาพวาดจิตรกรรม ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งของบ่งบอกฐานะของผู้คนในยุคนั้น
ในขณะที่บังเหียนของม้าเอง ก็มีการตกแต่งด้วยไม้และทองแดง บ่งบอกว่าม้าได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีมาโดยตลอด
การค้นพบครั้งนี้สำคัญอย่างไร!?
นอกจากจะเป็นการยืนยันสถานะของพื้นที่แห่งนี้ในอดีต ว่าครั้งหนึ่งเคยเป็นย่านที่อยู่อาศัยของนายทหารชั้นสูง และกลุ่มคนมีฐานะดีในอดีตได้จริงๆ
การค้นพบม้าที่เตรียมใช้หนีจากภูเขาไฟระเบิด แสดงให้เห็นว่ามีประชากรบางส่วนรับรู้เหตุการณ์ และเตรียมตัวหนีออกจากพื้นที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถหนีได้ทัน
เป็นไปได้ว่า อาจจะมีบางกลุ่มที่หนีภูเขาไฟระเบิดได้ทัน และได้ทิ้งหลักฐานที่เกี่ยวข้องไว้ในบริเวณใกล้เคียงอีกหรือไม่??
ขณะที่คุณ Massimo Osanna หัวหน้าทีมขุดค้นปอมเปอี ระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับม้าตัวนี้เป็นเรื่อง “โหดร้ายและน่ากลัว”
เพราะม้าขาดอากาศหายใจจากเถ้าถ่านที่ประทุจากเหตุภูเขาไฟระเบิด ซึ่งถือเป็นการตายอันน่าเศร้า
เขาบอกปิดท้ายไว้ว่า หากพื้นที่ Villa of Mysteries ถูกขุดค้นจนเรียบร้อย (ซึ่งกำลังจะเสร็จสิ้นในอีกไม่นาน) ก็จะเปิดเป็นสถานที่ทางโบราณคดี
ให้บุคคลภายนอกที่สนใจได้เข้ามาศึกษา เยี่ยมชม และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต…
.
.
.
ที่มา:
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.