นี่คือเรื่องราวของ Sylwia Tabor หญิงสาววัย 32 ปีจากเมืองแซคราเมนโต รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ผู้เคยกินแต่พืชผักผลไม้ ในแบบที่เรารู้จักกันในชื่อเรียกว่า “วีแกน”
เธอเริ่มกินอาหารในลักษณะนั้นตั้งแต่ปี 2008 หลังจากที่เธอรู้สึกกังวลในเรื่องของจริยธรรมกับการเนื้อสัตว์ จึงไม่แตะต้องเนื้อเลยแม้แต่น้อย
แต่หลังจากผ่านไปได้ 3 ปี เธอก็หยุดวิธีกินนั้นไป เพราะรู้สึกว่าร่างกายอ่อนแอและเคยซี่โครงหักจากการยกกล่องแค่กล่องเดียว
เธอเริ่มกลับมากินอาหารโดยมีสัดส่วนของเนื้อสัตว์และผักเท่าๆ กัน แต่แล้วเธอก็หันมาเปลี่ยนวิธีการกินของตัวเองใหม่อีกครั้ง หลังจากที่เธอ “โดนแมงมุมกัด” ?!
เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2017 หลังจากที่เธอเข้าไปตั้งแคมป์อยู่ในป่าแล้วถูกแมงมุมไม่ทราบสายพันธุ์กัดเข้าที่บริเวณข้อเท้าของเธอ เป็นตุ่มใสเล็กๆ ในตอนแรก
ตอนนั้นเธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอผ่านไปได้ไม่นาน แผลดังกล่าวก็เริ่มลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆ แค่ช่วงปลายเดือนสิงหาคมมันก็ลามมาถึงบริเวณหน้าขา ก่อนจะไล่ขึ้นไปทั่วร่างกายของเธอ
เธอเร่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล โดยแพทย์วินิจฉัยว่าเธอมีอาการของ “โรคเนื้อเน่า” (Necrotising Fasciitis) ทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดอยู่นานกว่า 3 ชั่วโมง เพื่อยับยั้งไม่ให้มันกระจายตัวออกไปมากกว่าเดิม
Sylwia จำเป็นต้องปลูกถ่ายผิวหนังบริเวณท้องของเธอ หลังจากที่มันโดนอาการของโรคกันกินไปเป็นจำนวนมาก แถมเธอก็กินอะไรแทบจะไม่ได้เลย พอกินเข้าไปแล้วมักจะมีผื่นขึ้นมา ปวดท้อง ท้องร่วง
เธอบอกว่า “นั่นเป็นเพราะว่าฉันกินยาปฏิชีวนะเข้าไปเยอะมาก มันทำลายแบคทีเรียที่ดีที่ใช้ในการย่อยอาหารในท้องฉันไปจนหมด ท้องไส้ฉันปั่นป่วนและมันรู้สึกแย่เอามากๆ รู้สึกราวกับช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในตอนที่ฉันเป็นวีแกน”
เธอบอกว่าสิ่งเดียวที่เธอสามารถกินได้เป็นอย่างดีนับตั้งแต่นั้นมาก็คือ “เนื้อสัตว์” และจากที่เพื่อนเธอล้อเล่นว่าทำไมไม่ลองกินอาหารแบบสัตว์กินเนื้อดู Sylwia จึงเริ่มกินแต่เนื้อสัตว์นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2018
แน่นอนว่าการกินแต่เนื้อสัตว์ในแบบที่เธอทำนั้นมันคงถือเป็นวิธีการกินที่แปลกสำหรับบางคน แต่เธอก็ยืนยันว่ามันทำให้เธอรู้สึก “สุขภาพดี” ซะยิ่งกว่ากินอาหารแบบวีแกน หรือการกินอาหารแบบปกติเสียอีก
Sylwia บอกว่า “เมื่อได้ลงลึกเข้าไปจริงๆ ฉันก็ยิ่งพบว่าการกินเนื้อสัตว์นั้นคือสิ่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการดูดซับสารอาหาร มากเสียยิ่งกว่าการที่เราเติมพวกคาร์โบไฮเดรตและผักเข้าไป”
“ฉันรู้สึกดีขึ้นมากกว่าที่เคยเป็นมาก่อน ตอนที่ฉันกินอาหารแบบปกติก็เทียบกับที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ได้เลย” เธอกล่าว
นอกจากนั้น Sylwia ยังบอกอีกว่าเธอจะศึกษาหาแหล่งที่มาของเนื้อสัตว์ที่เธอกินอยู่เสมอ โดยมันจะต้องมาจากฟาร์มของคนท้องถิ่นเท่านั้น มาจากสถานที่ที่ดี เพื่อให้ไม่กังวลต่อหลักจริยธรรมในการกินเนื้อสัตว์ตามที่ตั้งใจไว้
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.