หนุ่มทิ้งอาชีพครู มาเป็น “คนรับจ้างซื้อของ” รายได้ปีละมากกว่า 3,000,000 บาท!!

งานประจำที่เราทำกันอยู่ในทุกวันนี้อาจสร้างรายได้ไม่เพียงพอตามแต่ที่เราต้องการในชีวิตประจำวัน มันจึงทำให้หลายๆ คนจำเป็นที่จะต้องหาอาชีพเสริมมาช่วยจุนเจือในส่วนนั้น

แต่สำหรับชายหนุ่มวัย 45 ปีคนนี้ เขาได้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ และหันมาทำอาชีพเป็น “คนรับจ้างซื้อของ” ในห้างสรรพสินค้า ซึ่งมันกลับสร้างรายได้ได้มากกว่าเดิมถึงเท่าตัว

 

 

เรากำลังพูดถึง Ed Hennessey หนุ่มชาวอเมริกันจากเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ผู้เคยประกอบอาชีพเป็น “ครูโรงเรียนมัธยม” มายาวนานกว่า 20 ปี

แต่ในช่วงของการเป็นครูนั้น เขาจำเป็นที่จะต้องทำอาชีพเสริมเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ตามร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ เรื่อยมา เพราะรายได้ที่เขาได้รับจากงานประจำนั้นไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายหลายๆ อย่างที่จำเป็น

จนกระทั่งในปี 2015 Ed ก็ได้เริ่มทำงานพาร์ทไทม์เป็น “คนรับจ้างซื้อของ” ให้กับบริษัทที่ชื่อว่า Shipt ซึ่งทางบริษัทบอกว่างานนี้จะได้รับรายได้อยู่ที่ประมาณชั่วโมงละ 22 ดอลลาร์ฯ (ราวๆ 720 บาท)

 

 

การทำงานดังกล่าวนั้นก็จะคล้ายๆ กับบริการเดลิเวอรี่ หน้าที่ของคุณคือเข้าไปซื้อสินค้า ของสดต่างๆ ในห้างสรรพสินค้า Target จากนั้นก็นำไปส่งให้กับผู้คนในละแวกใกล้เคียง

จนเมื่อปี 2017 เขาตัดสินใจที่จะหยุดพักการเป็นครู แล้วหันมาทำงานรับจ้างซื้อของนี้อย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น จนพบว่ารายได้ที่เขาได้รับนั้นสูงขึ้นกว่าเดิม และตัดสินใจลาออกจากอาชีพครูในเดือนพฤษภาคม 2018

 

 

จากการทำงานเป็นคนรับจ้างซื้อของ 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ รับออร์เดอร์จากผู้คนจำนวน 22 คนต่อวัน แถมยังมีทิปที่เขาจะได้รับโดยไม่ต้องหักเข้าบริษัทแต่อย่างใด ทำให้เขามีรายได้มหาศาลจากงานที่ว่านี้

Ed กล่าวว่างานดังกล่าวทำให้เขามีรายได้สูงถึง 100,000 ดอลลาร์ฯ ต่อปี หรือมากกว่า 3.2 ล้านบาท ซึ่งนั่นมันคือจำนวนเงินที่สูงเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับตอนที่เขายังคงเป็นครูอยู่

ในตอนแรกนั้นเขาถึงกับช็อกเอามากๆ เมื่อเห็นรายได้มหาศาลของตัวเอง และมันทำให้เขาไม่รู้สึกเสียดายภายหลังแม้แต่น้อย กับการตัดสินใจลาออกจากงานประจำในตอนแรก

 

 

แม้ว่า Ed จะรักในอาชีพครู รู้สึกดีในการที่ได้อยู่กับลูกศิษย์ที่น่ารักทั้งหลาย แต่การผันตัวมาเป็นคนรับจ้างซื้อของนี้ก็ทำให้เขารู้สึกสบายใจได้ไม่แพ้กันเลย

เขามองว่ามันคืองานที่ได้ช่วยเหลือคนจำนวนมาก ให้พวกเขาเหล่านั้นไม่ต้องมาเสียเวลาไปกับการซื้อของด้วยตัวเอง ยกตัวอย่างพนักงานดับเพลิงที่พอออกจากงานพวกเขาก็คงอยากอยู่กับครอบครัว มากกว่ามายืนต่อคิวในห้างฯ

 

 

เมื่อเขารักในงานที่ทำ เขาจึงทำมันออกมาได้ดีมากๆ สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทุกคน เพราะเขามีความใส่ใจในหลายๆ อย่าง

Ed จะรู้เสมอว่าลูกค้าแต่ละคนจำเป็นที่จะต้องซื้อของเข้าบ้านในช่วงเวลาไหน เอาใจใส่ และคอยเช็กสินค้าที่จะซื้อกลับไปส่งให้อยู่ตลอด

 

การรายงานข่าวท้องถิ่น

 

อย่างไรก็ตาม เขาก็บอกว่า…

“มันทำให้ผมมีความสุขมากๆ กับการทำเงินได้ค่อนข้างมากในปัจจุบัน แต่คิดดูแล้วมันก็น่าเศร้ากับเรื่องที่ผมจบมามีใบปริญญาทำงานเป็นครูมากว่า 20 ปี แต่กลับทำเงินไม่ได้มากเท่ากับการเป็นคนรับจ้างซื้อของเลย”

 

ที่มา: time , nbc26 , wptv

Comments

Leave a Reply