สำหรับการเริ่มต้นปีใหม่นี้ บางคนอาจจะเริ่มต้นได้อย่างสวยหรู อะไรต่างๆ ดูเข้าท่าไปซะหมด แต่สำหรับคุณแม่คนหนึ่งแล้ว ช่วงแรกของปีอาจไม่ใช่ช่วงที่ดีของเธอเอาซะเลย
เพราะเธอไปพบกับโน๊ตที่ไม่คาดคิดว่าจะพบในกล่องจดหมาย และข้อความที่อยู่ในนั้นก็คือเสียงจากเพื่อนบ้านที่กล่าวว่าพวกเขารู้สึก ‘เบื่อหน่าย’ จนพาลให้หัวเสียกับเสียงร้องของลูกชายเธอที่ป่วยเป็นออทิสติก…
Ana Gray และลูกชายของเธอ
เมื่อเช้าวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา Ana Gray คุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัย 28 ปี ได้ไปเช็คกล่องจดหมายที่หน้าบ้านในเมืองนาเปียร์ ประเทศนิวซีแลนด์ แล้วก็พบกับโน๊ตใบหนึ่งอยู่ในนั้น ซึ่งอ่านได้ว่า
“ถ้าคุณทำให้ลูกของคุณหยุดตะโกนโหวกเหวกไม่ได้ ฉันจะโทรศัพท์หาหน่วยงานดูแลเด็กแล้วรายงานเรื่องของคุณซะ ตอนนี้พวกเราทนแทบไม่ไหวกับลูกคุณกันแล้ว อ๋ออีกอย่างเราจะโทรหาเจ้าของบ้านที่คุณเช่าอยู่ด้วย”
ทั้งนี้ Wiremu ลูกชายวัย 7 ขวบของเธอได้รับการวินิจฉัยจากทางแพทย์ว่าป่วยเป็นโรคออทิสซึม รวมถึงมีความบกพร่องทางพัฒนาการในทุกๆ ด้าน (Global Developmental Delay) เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
โน๊ตที่เธอได้รับ
ทางคุณแม่ได้ออกมากล่าวถึงเหตุการณ์นี้กับสื่อท้องถิ่นอย่าง New Zealand Herald ว่า ไม่รู้ว่าโน๊ตนี้เป็นของใครกันแน่เพราะไม่มีการระบุชื่อเอาไว้ แต่เธอได้ทำการขอโทษพร้อมกับอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านทางเฟซบุ๊ก
“ฉันอยากจะคุยกับเขาแบบเห็นหน้ากันจริงๆ ฉันจะได้อธิบายถึงสถานการณ์ของเราว่ามันเป็นเรื่องยากขนาดไหนกับการรับมือสิ่งสิ่งนี้ ไม่มีอะไรเลยที่ฉันสามารถจะแก้ไขได้เลยในตอนนี้” Ana กล่าว
พร้อมกันนี้เธอยังกล่าวด้วยว่าเจ้าของบ้านรับรู้ความผิดปกติของลูกเธออยู่แล้ว และเขาก็ไม่ได้มีปัญหาใดๆ กับเรื่องนี้เลยจนถึงตอนนี้
ในตอนนี้เธอได้เพียงแค่หวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้นเรื่อยๆ และจะพาลูกชายของเธอไปหากุมารแพทย์ที่อาจจะช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ได้
“ฉันเข้าใจดีนะถึงสิ่งที่เพื่อนบ้านของฉันต่อว่ามา เขาเป็นเด็กที่เสียงดังมากๆ และมักจะระเบิดอารมณ์ออกมาเกือบทุกๆ วัน แต่ว่าฉันก็คาดเดาไม่ได้ว่าเวลาไหนกันแน่” Ana อธิบาย
เพราะด้วยอาการนี้ จึงทำให้ที่ผ่านมา Ana และครอบครัวต้องใช้เวลาส่วนมากอยู่ที่บ้านเพื่อช่วยดูแลเขาไม่ให้ร้องตะโกนส่งเสียงดัง และวิธีที่จะทำให้เขาเงียบได้ก็คือให้เล่นเกมที่เขาชอบอย่างเช่นเกม Minecraft
“ฉันรักลูกชายของฉันมากๆ เขาอาจไม่สมบูรณ์แบบสำหรับคนอื่น แต่สำหรับฉันแล้วเขาเป็นคนที่เพอร์เฟกต์เลยแหละ” Ana กล่าวปิดท้าย
ในตอนนี้ยังไม่เป็นที่เปิดเผยว่าอาการของลูกเธอดีขึ้นหรือไม่ หรือว่าแก้ไขปัญหานี้ได้หรือยัง แต่อย่างไรก็คงได้แต่หวังว่าเรื่องนี้จะได้รับการแก้ไขในเร็ววัน…
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.