เมื่อลูกอยากเป็นโปรเกมเมอร์ คุณพ่อเลยจัดหนักไล่ตื้บในเกม Smash Bros. จนลูกร้องไห้

เหล่าเกมเมอร์ โดยเฉพาะสายคอนโซลคงรู้จักกับเกมแนวต่อสู้ชื่อดังที่รวมตัวละครจากเกมในค่าย Nintendo อย่าง Super Smash Bros. Ultimate ซึ่งผลิตมาเล่นกับเครื่อง Nintendo Switch

และด้วยความที่เป็นเกมที่สนุก เล่นได้ทุกเพศ ทุกวัย น้องๆ หนูๆ หลายๆ คนอาจจะติดใจจนอยากจะเล่นเป็นอาชีพ หรือที่เรียกกันว่า โปรเกมเมอร์

และเมื่อลูกชายของคุณพ่อชาวญี่ปุ่น ผู้ใช้ทวิตเตอร์แอคเคานต์ @amour_rapid บอกเจตจำนงค์ของตนว่า “โตขึ้น ผมจะเป็นโปรเกมเมอร์ให้ได้เล้ยยย” คุณพ่อท่านนี้จึงได้สั่งสอนให้ลูกได้รับรู้ถึงโลกแห่งความเป็นจริงอันโหดร้าย…

 

 

เรื่องราวดังกล่าวถูกบอกเล่าผ่านทวิตเตอร์ของคุณพ่อเอง เขาเล่าว่า

“ไม่นานมานี้ ลูกชายผมบอกว่าโตขึ้นอยากจะเป็นโปรเกมเมอร์ ตอนเราเล่น Super Smash Bros. ผมเลยเล่นจัดเต็มแบบไม่ออมมือ และผมก็ชนะรัวๆ ซะจนไอ้ลูกชายร้องไห้โฮออกมาเลย”

ชาวทวิตเตอร์ที่ได้อ่านเรื่องราวของคุณพ่อส่วนใหญ่ต่างก็ขำขัน และเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า มันเป็นการสั่งสอนลูกที่มั่นใจในตัวเองจนเกินเหตุ ให้ได้รู้ถึงโลกความจริงและเรียนรู้ที่จะใช้พลังของตัวเองในทางที่ถูกที่ควร

หรือเป็นการสั่งสอนให้รู้ว่าวงการ e-sport นั้นไม่ใช่ว่าจะเข้าไปได้ง่ายๆ เพราะการจะเป็นโปรเกมเมอร์นั้นจะต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก ต้องเรียนรู้กลยุทธ์และฝึกไหวพริบให้เฉียบคม และมันไม่ใช่เรื่องสนุกเพลิดเพลินเหมือนตอนเล่นสนุกๆ กับเพื่อนๆ

 

 

แต่ก็มีบางคนที่ชี้ให้เห็นอีกมุมหนึ่งของการกระทำของคุณพ่อเช่นกัน เช่นผู้ใช้ทวิตเตอร์แอคเคานต์ @isikusu ได้ทวีตเอาไว้ว่า

“มันก็ดูตลกดีนะ แล้วดูเหมือนว่าหลายๆ คนรับได้กับสิ่งที่คุณพ่อทำ แต่การที่ผู้ใหญ่เอาความจริงอันโหดร้ายมาโชว์ให้เด็กดูในตอนที่เด็กๆ เขาพูดถึงความฝันของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใหญ่ที่ว่าเป็นพ่อแม่ของเด็กเองเนี่ย

ฉันว่าเด็กๆ น่ะเขาไม่ได้ร้องไห้เพราะเล่นเกมแพ้หรอก เขาร้องไห้เพราะเขารู้สึกเหมือนโดนทรยศต่างหากล่ะ แล้วพวกผู้ใหญ่คาดหวังจะได้อะไรจากการทำลายความฝันของเด็กๆ เหรอ?”

 

 

และเขายังเสริมเพิ่มอีกว่า

“มันก็เหมือนกับเวลาลูกบอกว่า “อยากจะเป็นหมอฟัน” แล้วคุณก็เอาข้อสอบสอบเข้ามหาลัยให้ทำทันที แล้วเขาก็ร้องไห้เพราะเขาทำข้อสอบพวกนั้นไม่ได้ไง”

 

 

และเมื่อชาวเน็ตได้อ่านทวีตดังกล่าว ก็มีคนมากมายเข้ามาสนับสนุนความคิดเห็นของ @isikusu ว่าการดูถูกหรือการบอกเล่าความโหดร้ายของโลกไม่ได้ช่วยผลักดันเด็กๆ ให้มีกำลังใจทำตามความฝันเสมอไป เช่น

“แล้วเรื่องนี้ก็จะฝังใจลูกชายของเขาไปเลยนะว่าทุกครั้งที่มีความฝัน พ่อแม่ของเขาก็จะทำลายมันซะ ฉันว่าเด็กที่น่าสงสารคนนี้ก็จะโตไปเป็นคนที่ยอมแพ้ต่อทุกสิ่งทุกอย่างทันที”

“เด็กคนนี้สุดท้ายก็คงกลายเป็นคนที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่เขาอยากจะทำ แต่ทำอะไรก็ตามที่พ่อแม่ต้องการ แล้วเขาก็จะขาดความสามารถในการพึ่งพาตนเองและการควบคุมสถานการณ์ไป”

 

ที่มา Soranews24


Tags:

Comments

Leave a Reply