ในพื้นที่ฝั่งทะเลแดง ทางตะวันออกของประเทศอียิปต์ ทีมนักโบราณคดีร่วมระหว่างโปแลนด์และสหรัฐอเมริกา ได้ทำการค้นพบป้อมปราการเก่าแก่ที่มีอายุร่วม 2,300 ปี
นี่เป็นป้อมปราการ ที่สร้างขึ้นในสมัยของราชวงศ์ทอเลมี ราชวงศ์ซึ่งเป็นลูกหลานของหนึ่งในเจ็ดนายพลของอเล็กซานเดอร์มหาราช และคาดกันว่าในอดีตถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องเมืองท่า “Berenike”
ป้อมปราการที่พบนี้มีขนาด 160 x 80 เมตรสร้างขึ้นจากหิน มีกำแพงสองชั้นหันไปทางตะวันตก และกำแพงหนึ่งชั้นหันไปทางทิศตะวันออก และทิศเหนือ
ลักษณะของกำแพงที่หันเขาไปในทางแผ่นดินนี้ทำให้นักโบราณคดีคาดว่าป้อมปราการนี้น่าจะมีหน้าที่ป้องกันข้าศึกไม่ให้เข้ามายังเมืองท่า มากกว่าป้องกันข้าศึกที่อาจจะเข้ามาในเมืองท่าทางทะเล
นอกจากนี้ในป้อมเองยังประกอบไปด้วยลักษณะสิ่งก่อสร้างที่ซับซ้อน โดยมีทั้งร้านค้าและโรงงานอยู่ในตัว แถมยังมีบ่อน้ำและสระน้ำอีกหลายแห่งซึ่งออกแบบมาให้เก็บน้ำจากน้ำใต้ดินและน้ำฝนในเวลาเดียวกัน เรียกได้ว่าพร้อมในการรับมือกับศึกยืดเยื้อเป็นอย่างดี
Marek Woźniak หนึ่งในทีมนักโบราณคดีบอกว่าสระน้ำสองแห่งในป้อมนี้สามารถจุน้ำได้รวมๆ ถึง 17,000 ลิตร ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่าในอดีตพื้นที่ในเขตนี้น่าจะมีความชื้นมากกว่าในปัจจุบัน
นอกจากนี้ในตัวป้อมปราการ นักโบราณคดียังพบกับชิ้นส่วนกะโหลกของลูกช้าง เหรียญทอง และเครื่องดินเผาเทอราคอตตาด้วย ซึ่งนับว่าน่าสนใจมากเพราะสิ่งเหล่านี้บอกให้เราทราบว่าป้อมปราการนี้อาจมีชีวิตที่สงบสุขกว่าที่เราคิด
เพราะนอกจากเมือง Berenike จะไม่มีประวัติถูกโจมตีแล้ว สิ่งที่พบยังบอกให้เราทราบว่าตัวเมืองนี้ น่าจะมีหน้าที่สนับสนุนสงครามอย่างการส่งช้างไปให้กองทัพ มากกว่าที่จะเป็นสถานที่รบเสียเอง ทำให้เมืองนี้สามารถค้าขายได้อย่างเต็มที่
จริงอยู่ว่าป้อมปราการนี้จะมีการค้นพบมาตั้งแต่ในปี 2013 แล้ว แต่การขุดค้นสถานที่แห่งนี้ก็ยังคงนำมาซึ่งการค้นพบใหม่ๆ เรื่อยมา แม้กระทั่งในปัจจุบัน
ที่มา livescience
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.