ไอเดียที่แสนน่ารักนี้ มาจากความร่วมมือของสองชาติในยุโรปตะวันออก โปแลนด์-ลิทัวเนีย ที่อยากจะสนับสนุนความสัมพันธ์ พร้อมลดการแบ่งแยกทางเชื้อชาติลงไป
เมือง Vilnius ในลิทัวเนีย จึงร่วมมือกับเมือง Lublin ในโปแลนด์ สร้างกระจกวิเศษ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของคนทั้งสองพื้นที่ขึ้นมา
ถ้าดูจากในแผนที่ ทั้งสองเมืองตั้งอยู่ห่างกันราวๆ 550 กิโลเมตร ก็ไม่แปลกที่จะมีคนชาติหนึ่ง ย้ายไปอยู่อาศัยในอีกชาติหนึ่ง เป็นเรื่องธรรมดาในยุโรป
และก็เป็นที่มาของโปรเจกต์ “กระจกวิเศษ” ที่ตั้งอยู่กลางเมืองทั้งคู่
กระจกวิเศษที่เห็น ที่จริงก็คือสิ่งก็สร้างรูปวงกลม ที่ตรงกลางจะเป็นหน้าจอขนาดใหญ่ พร้อมกับติดกล้องวิดีโอเอาไว้
คนที่อยู่เมืองหนึ่ง จะเห็นภาพที่ถ่ายทอดสดของอีกเมือง เหมือนกับมันเป็นประตูที่เชื่อมต่อคนทั้งสองชาติเข้าด้วยกัน
พวกเขาสามารถดูความเป็นไปในอีกที่ มาโบกมือทักทายคนแปลกหน้า หรือใครก็ตามที่มายืนอยู่หน้ากระจกบานนี้ แล้วก็พูดคุยกันได้ แม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนก็ตาม..
สาเหตุที่เมืองทั้งสองนี้ ได้รับเลือกเป็นเมืองทดสอบติดตั้งกระจกวิเศษเป็นแห่งแรก เพราะว่าทั้งสองเมืองมีอดีตร่วมกัน ย้อนกลับไปตั้งแต่สหภาพลับลิน หรือเครือจักรภพโปลิชลิทัวเนียน เป็นอาณาจักรขนาดใหญ่ในยุโรป เมื่อกว่า 500 ปีมาแล้ว
ก่อนที่ในภายหลัง เมื่อเวลาเปลี่ยนไปอาณาจักรก็ล่มสลายลง กลายเป็นประเทศต่างๆ อย่างที่เห็นในปัจจุบัน แต่ทั้งสองเมืองก็เคยมีประวัติศาสตร์ร่วมกันมาก่อน
Polish–Lithuanian Commonwealth ครอบคลุมพื้นที่แทบทั้งหมดของยุโรปตะวันออก
ความตั้งใจหลักของโปรเจกต์ ก็คือลดการแบ่งแยก และสื่อให้เห็นว่าเพื่อนมนุษย์ทุกคนคือชาวโลกเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติใดก็ตาม
.
หลังจากนี้ ทางทีมงานเบื้องหลังโปรเจกต์นี้ ก็มีแผนที่จะนำกระจกวิเศษดังกล่าว ไปตั้งในหลายเมืองใหญ่ๆ มากขึ้น เพื่อหวังจะสื่อสาร ถ่ายทอดแนวคิดดีๆ ไปให้ได้มากที่สุด
ซึ่งเมืองที่จะได้เปิดต่อไปก็คือ Reykjavik เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ และ London เมืองหลวงของอังกฤษ
.
คลิปโปรเจกต์กระจกวิเศษ ที่ต้องการลดความแบ่งแยกในสังคม