สำหรับคนที่ใช้งานโปรแกรมติดต่อสื่อสารมาเป็นเวลานาน เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะเคยพบกับสถานการณ์ได้ยินเสียงของตัวเองก้องออกมาจาก คนที่เรากำลังคุยด้วยกันมาบ้าง
แต่เคยสังเกตกันไหมว่า เวลาเราได้ยินเสียงเหล่านี้ บ่อยครั้งมันจะทำให้เรารู้สึกรำคาญอย่างไม่น่าเชื่อ จนบางครั้งเราก็ต้องหยุดสิ่งที่เรากำลังคุยอยู่เพื่อหาทางแก้ปัญหาเสียงก้องที่เกิดขึ้นเลย
ปรากฏการณ์ในรูปแบบนี้แม้จะเป็นอะไรที่ดูธรรมดา แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วมีความสำคัญกว่าที่คิด นั่นเพราะล่าสุดนี้เอง กองทัพสหรัฐฯ ก็ถึงขั้นกำลังทดลองที่จะทำมันไปทำเป็นอาวุธแบบใหม่เลย (แต่มันไม่ใช่อาวุธอันตรายถึงชีวิตหรอกนะ)
อ้างอิงจากรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศ อาวุธตัวใหม่นี้ถูกเรียกว่า ระบบ Acoustic hailing and Disruption (AHAD) โดยมันเป็นระบบที่ถูกขอจดสิทธิบัตรตั้งแต่ในปี 2019 เพิ่งได้รับมอบให้แก่กองทัพเรือในเดือนนี้
โดยมันเป็นระบบที่อธิบายคร่าวๆ ได้ว่าจะใช้ไมโครโฟนระยะไกลเพื่อบันทึกเสียงของเหยื่อ ก่อนที่จะใช้ลำโพงอันทรงพลังจะเล่นซ้ำคำพูดนั้นในความล่าช้าเล็กน้อยกลับไปยังแต่ละบุคคล ทำให้พวกเขาสนทนาหรือถ่ายทอดข้อความได้ช้าลง หรือในบางครั้งก็ไม่ได้เลย
ระบบที่ว่านี้ใช้หลักการของการตอบสนองทางเสียงล่าช้า ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกพัฒนามาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่พูดติดอ่างอีกที เนื่องจากมีการพบว่า แม้การได้ยินเสียงตัวเองจะทำให้ผู้ที่พูดติดอ่างพูดจาได้เร็วขึ้น แต่กับคนปกติมันจะได้ผลตรงกันข้าม
และถูกนำไปพัฒนาปรับปรุงโดยอ้างอิงกับระบบอุปกรณ์เรียกเสียง (AHD) ซึ่งทำงานโดยการส่งคลื่นเสียงรุนแรงเพื่อหยุดคนที่เข้ามายังพื้นที่หวงห้าม หรือเรือของกองทัพ และมีการใช้งานมานานแล้วอีกที
ที่น่าสนใจคือดูเหมือนว่าเทคโนโลยีเช่นนี้ดูเหมือนว่าจะใช้งานไม่ได้ผลนักกับผู้ที่พูดได้เร็วหรือได้รับการฝึกฝนในการพูดในที่สาธารณะ อยู่แล้ว ดังนั้นถึงมีการใช้งานอาวุธนี้ถึงมาจริงๆ ทหารระดับสูงหลายคนก็น่าจะยังคงสั่งลูกน้องได้ไม่เปลี่ยนแปลง
ดังนั้นมันจึงมีความเป็นไปได้สูงว่า AHAD เองก็คงจะถูกใช้ในการหยุดผู้คนที่จะเข้ามาใกล้เรือ หรือพื้นที่หวงห้าม เกินไปเป็นหลักเช่นกัน
แต่เรื่องที่ว่าเพราะอะไรกองทัพเรือจึงทุ่มเทและใช้เวลานานถึงเกือบ 3 ปีในการทดลองอาวุธชิ้นนี้ขึ้นมา หรือมันเป็นไปได้หรือไม่ที่อาวุธของพวกเขาจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเสียงสะท้อนทั่วไป? สุดท้ายแล้วเราก็คงจะยังต้องติดตามกันต่อไปอีกสักพักเลย
ที่มา taskandpurpose, newscientist และ iflscience