เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เราได้เห็นถึงประโยชน์ของระบบไร้คนขับ เทคโนโลยีในรถยนต์สมัยใหม่ เมื่อสาวรายหนึ่งได้ทำคลอดฉุกเฉิน ในขณะที่รถก็วิ่งไปบนถนนด้วยตัวเอง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ Yiran Sherry คุณแม่ป้ายแดงชาวสหรัฐฯ วัย 33 ปีจากรัฐฟิลาเดลเฟีย เมื่อเธอกับครอบครัวกำลังเดินทางจะไปคลอดลูกที่โรงพยาบาล
ตามรายงานข่าวบอกว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา Yiran มีอาการปวดท้องคลอด เธอและสามีจึงตัดสินใจไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางราว 20 นาที
ระหว่างที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลให้ทันเวลา จู่ๆ Yiran ก็มีอาการปวดท้องคลอดกระทันหัน เธอบีบมือสามีแน่น และทำท่าจะไม่ไหว
เมื่อรู้ว่ากำลังเข้าสู่สถานการณ์ฉุกเฉิน สามีของเธอรีบปรับรถเข้าสู่โหมดไร้คนขับในทันที เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ เพราะเขาต้องพูดคุยกับเธอตลอด ในขณะที่ขับรถด้วยมือข้างเดียว
“เธอบีบมือผมแผ่น ตอนนั้นผมรู้ว่าเธอไม่ไหวแล้ว ผมพูดกับเธอว่า โอเค โฟกัสที่ลมหายใจของคุณ นั่นเป็นคำแนะนำสำหรับผมด้วย ตอนนี้อะดรีนาลีนของผมกำลังสูบฉีด” Keating สามีของเธอให้สัมภาษณ์
Yiran เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนั้นว่า เธอลังเลอยู่นานว่าจะคลอดลูกในรถเลยหรือพยายามกัดฟันรอให้ถึงโรงพยาบาล แต่ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวและคลอดลูกที่เบาะหลัง
ทั้งแม่และเด็กถึงโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย เมื่อถึงที่หมายพยาบาลเข้ามาช่วยตัดสายสะดือออก หมอบอกว่าลูกของเธอแข็งแรงดี ซึ่งเรื่องนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับเจ้าหน้าที๋โรงพยาบาลอย่างมาก พวกเขาเรียกเด็กน้อยคนนี้ว่า “Tesla Baby”
ภายหลังเหตุการณ์นี้ Keating สามีของเธอกล่าวขอบคุณวิศวกรของทาง Tesla ที่สร้างระบบไร้คนขับ Tesla Autopilot ขึ้นมา
สำหรับระบบ Tesla Autopilot เป็นระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ทำให้รถสามารถตรวจจับสภาพแวดล้อมโดยรอบ และเคลื่อนที่ไปตามทิศทางที่ตั้งไว้
ที่ผ่านมา Tesla ได้อัปเกรดระบบไร้คนขับหลายครั้ง และได้ปล่อยเวอร์ชั่นทดลองรุ่นล่าสุดให้กับลูกค้าบางส่วน เพื่อทดสอบการใช้งานและเก็บข้อมูล ซึ่งตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า Tesla Autopilot ยังไม่ใช่ระบบไร้คนขับแบบ 100%
คลิปวิดีโอทดสอบระบบไร้คนขับของ Tesla
ที่มา theguardian, independent